เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ (FBI) เปิดเผยในวันนี้ (29 ก.ค.) ว่า ตำรวจพบเห็นชายชาวเพนซิลเวเนียที่พยายามลอบสังหารนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุยิงเมื่อวันที่ 13 ก.ค. มากกว่าหนึ่งชั่วโมง และได้ถ่ายรูปชายคนดังกล่าวเพื่อแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ในพื้นที่
"เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุตัวผู้ก่อเหตุได้ว่าเป็นบุคคลต้องสงสัย" นายเควิน โรเจ็ก เจ้าหน้าที่พิเศษผู้ดูแลสำนักงานภาคสนามพิตต์สเบิร์กของเอฟบีไอ เปิดเผยต่อสื่อมวลชนระหว่างการแถลงข่าวการสืบสวนคดีพยายามลอบสังหาร
นายโรเจ็กกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นได้ถ่ายรูปของนายโทมัส ครูกส์ มือปืน พร้อมส่งรูปดังกล่าวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่น ๆ ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ชุมนุมหาเสียงของนายทรัมป์ที่รัฐเพนซิลเวเนียในวันนั้น ต่อมาอีกราว 30 นาที เจ้าหน้าที่หน่วย SWAT พบเห็นนายครูกส์กำลังใช้เครื่องวัดระยะ พร้อมกับท่องเว็บไซต์ข่าวไปด้วย
นายโรเจ็กเปิดเผยว่า นายครูกส์ถูกพบเห็นขณะกำลังสะพายเป้เมื่อเวลาประมาณ 17.56 น. ก่อนเกิดเหตุไม่ถึง 20 นาที ต่อมาเวลา 18.08 น. กล้องติดรถยนต์ของตำรวจจับภาพเขาได้ขณะเดินอยู่บนหลังคา ซึ่งเป็นจุดที่เขาใช้ก่อเหตุยิงในเวลาต่อมา
แม้ว่าเอฟบีไอจะไม่ใช่หน่วยงานที่รับผิดชอบในการสืบสวนข้อบกพร่องด้านการรักษาความปลอดภัยนายทรัมป์ แต่นายโรเจ็กเผยว่า เจ้าหน้าที่เอฟบีไอกำลังรวบรวมลำดับเหตุการณ์อย่างละเอียด
เจ้าหน้าที่เอฟบีไอกล่าวว่า พวกเขายังไม่ทราบแรงจูงใจของนายครูกส์ มือปืนวัย 20 ปี ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาวิสามัญฆาตกรรมหลังจากที่เขาเปิดฉากยิง
อย่างไรก็ตาม ทางการเปิดเผยว่า นายครูกส์ได้สืบค้นทางอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับเหตุกราดยิงครั้งก่อน ๆ รวมถึงดูวิธีประดิษฐ์อุปกรณ์ระเบิดแสวงเครื่อง และดูข้อมูลคดีพยายามลอบสังหารนายกรัฐมนตรีสโลวาเกียเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
นายโรเจ็กกล่าวว่า นายทรัมป์ ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์เอฟบีไออย่างรุนแรง ได้ตกลงที่จะให้สัมภาษณ์ตามขั้นตอนปกติในฐานะผู้เสียหาย ซึ่ง "จะเป็นไปในแนวทางเดียวกับการสัมภาษณ์ผู้เสียหายรายอื่น ๆ ที่เราทำ เราต้องการทราบมุมมองของเขา"
นายโรเจ็กยืนยันว่านายทรัมป์ถูกกระสุนปืนจริง แต่ไม่แน่ชัดว่าจะเป็นกระสุนนัดนั้น "ทั้งนัดหรือเศษกระสุนที่แตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย" เจ้าหน้าที่เอฟบีไอเผยว่า นายครูกส์เป็นคนเก็บตัว ไม่มีเพื่อนสนิทหรือคนรู้จัก ส่วนใหญ่จะคบหาแค่คนในครอบครัวใกล้ชิดเท่านั้น
เจ้าหน้าที่เอฟบีไอเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า นายครูกส์ใช้แอปพลิเคชันที่มีการเข้ารหัสในการสั่งซื้อสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนจำนวน 25 รายการ และสารเคมีตั้งต้นที่ใช้ในการประกอบระเบิดอีก 6 ชนิด
ทั้งนี้ ความสนใจด้านวิทยาศาสตร์และการทดลองต่าง ๆ ที่นายครูกส์ทำมาตั้งแต่เด็ก ไม่ได้ทำให้พ่อแม่รู้สึกผิดสังเกตแต่อย่างใด ทางเอฟบีไอเปิดเผยว่าพ่อแม่ของเขาให้ความร่วมมือในการสืบสวนเป็นอย่างดี