ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนกำลังยกระดับความพยายามในการสร้างจุดยืนให้กับตัวเองในฐานะผู้สร้างสันติภาพเพื่อยุติสงครามของรัสเซียในยูเครน แม้ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากทั้งสหรัฐและยุโรปมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่า ทางการจีนกำลังสนับสนุนความพยายามในสนามรบของรัสเซียก็ตาม
ท่ามกลางสถานการณ์ที่รัสเซียและยูเครนกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากทั้งในและต่างประเทศให้แสวงหาหนทางในการยุติสงคราม โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจีนได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสจากยูเครนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ความขัดแย้งเริ่มต้นขึ้นในปี 2565 ขณะที่นายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวกับนายดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครนว่า เวลานี้ยัง "ไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมนัก" ในการเจรจาสันติภาพ แต่เขาก็ระบุว่า ตอนนี้ ทั้งสองฝ่ายกำลังส่งสัญญาณถึงความพร้อมที่จะเจรจา
ทางการจีนยังคงเพิ่มความพยายามดังกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (28 ก.ค.) โดยส่งนายหลี่ ฮุย ทูตพิเศษของจีนไปยังบราซิล แอฟริกาใต้ และอินโดนีเซีย เพื่อสร้างภาวะที่เอื้อต่อการเริ่มเจรจาสันติภาพซึ่งประเทศเหล่านั้นไม่ได้คว่ำบาตรรัสเซียภายใต้มาตรการที่นำโดยสหรัฐ
ความพยายามดังกล่าวจะตอกย้ำความมุ่งมั่นของปธน.สีที่จะสร้างบทบาททางการทูตที่ใหญ่ขึ้น ในช่วงเวลาที่ยูเครนและนานาประเทศจากยุโรปกำลังเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายการต่างประเทศครั้งใหญ่จากสหรัฐซึ่งเป็นพันธมิตรที่สำคัญที่สุด โดยอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันให้คำมั่นว่า จะยุติสงครามในยูเครน "ภายใน 24 ชั่วโมง" หากเขาชนะการเลือกตั้งในสหรัฐ ขณะที่นายเจดี แวนซ์ ผู้สมัครชิงเก้าอี้รองปธน.ของเขาวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการให้การสนับสนุนแก่ยูเครน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความพยายามดังกล่าวของทางการจีนมีขึ้น หลังจากที่รัฐบาลของปธน.โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนประกาศว่า รัฐบาลเปิดกว้างให้ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เข้าร่วมการประชุมสุดยอดสันติภาพครั้งที่ 2 ที่จัดขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่จะทำให้ทางการจีนเข้าร่วมการประชุมด้วย