สายลับโสมขาวเผย เกาหลีเหนือเร่งหายารักษา "คิม จองอึน" เหตุน้ำหนักเกิน

ข่าวต่างประเทศ Tuesday July 30, 2024 15:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หน่วยข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ (NIS) ซึ่งเป็นหน่วยงานสายลับหลักของเกาหลีใต้ เปิดเผยกับฝ่ายนิติบัญญัติในวันจันทร์ (29 ก.ค.) ว่า นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ กลับมามีน้ำหนักเพิ่มอีกครั้งและดูเหมือนจะมีปัญหาสุขภาพจากโรคอ้วน เช่น ความดันโลหิตสูงและเบาหวาน โดยทางการเกาหลีเหนือกำลังเร่งหายาชนิดใหม่ในต่างประเทศเพื่อรักษาอาการเหล่านี้

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า นายคิมในวัย 40 ปี ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นนักดื่มและสิงห์อมควัน เกิดมาในครอบครัวที่มีประวัติการเป็นโรคหัวใจ โดยทั้งบิดาและปู่ของเขา ซึ่งปกครองเกาหลีเหนือมาตั้งแต่ก่อนเขาเข้ารับตำแหน่งในปี 2554 ล้วนเสียชีวิตจากปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจ

ผู้สังเกตการณ์บางคนระบุว่า นายคิม ซึ่งมีส่วนสูงประมาณ 170 เซนติเมตร และก่อนหน้านี้หนักประมาณ 140 กิโลกรัม ดูเหมือนจะลดน้ำหนักลงอย่างมากในปี 2564 ซึ่งน่าจะมาจากการเปลี่ยนแปลงอาหารการกิน แต่ภาพฟุตเทจจากสื่อเมื่อไม่นานมานี้เผยให้เห็นว่า เขากลับมามีน้ำหนักมากขึ้นอีกครั้ง

นายลี ซอง ควอน หนึ่งในฝ่ายนิติบัญญัติของเกาหลีใต้ระบุว่า NIS เปิดเผยกับฝ่ายนิติบัญญัติในการบรรยายสรุปแบบปิดในวันจันทร์ว่า นายคิมน่าจะกลับมามีน้ำหนักประมาณ 140 กิโลกรัมอีกครั้ง และอยู่ในกลุ่มผู้มีความเสี่ยงโรคหัวใจสูง

NIS ระบุว่า นายคิมมีอาการของโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวานตั้งแต่ตอนที่เขาอายุ 30 ต้น ๆ ขณะที่นายปาร์ก ซุนวอน สมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติอีกคนหนึ่งกล่าวว่า NIS เชื่อว่า โรคอ้วนของนายคิมมีส่วนเชื่อมโยงกับการดื่ม การสูบ และความเครียด

นายลีและปาร์กเปิดเผยถ้อยแถลงของ NIS ที่ระบุว่า ทางหน่วยงานได้รับข่าวกรองว่า เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือกำลังพยายามจัดหายาชนิดใหม่จากต่างประเทศ เพื่อรักษาโรคความดันโลหิตและเบาหวานให้กับนายคิม

ทั้งนี้ เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่ลี้ลับเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก และไม่มีทางที่บุคคลภายนอกจะทราบได้เลยว่า อาการที่แท้จริงของนายคิมเป็นเช่นไร โดยสุขภาพของนายคิมกลายเป็นจุดสนใจอย่างใกล้ชิดจากต่างชาติ เนื่องจากเขายังไม่ได้แต่งตั้งผู้สืบทอดตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เพื่อมารับหน้าที่ดูแลคลังอาวุธนิวเคลียร์ที่กำลังขยายตัวขึ้นของเกาหลีเหนือ ซึ่งมุ่งเป้าจะโจมตีสหรัฐและชาติพันธมิตร หากเขาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ