นายฮัสซัน เบเฮชติปูร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการระหว่างประเทศของอิหร่านระบุเมื่อวานนี้ (31 ก.ค.) ว่า อิหร่านจะหาทางแก้แค้นกับการที่อิสราเอลได้ลอบสังหารนายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส โดยจะใช้วิธีการที่บริหารจัดการอย่างดี โดยไม่ทำให้วิกฤตการณ์ในภูมิภาคทวีความรุนแรงขึ้น
นายเบเฮชติปูร์เปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่า "เราจะเห็นความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้นในภูมิภาค แต่เป็นไปในแนวทางที่จัดการได้ ผมมองว่า ไม่มีแนวโน้มที่จะเกิดสงครามครั้งใหญ่ขึ้น"
นายเบเฮชติปูร์เน้นย้ำว่า การทำให้วิกฤตทวีความรุนแรงขึ้น ไม่ใช่สิ่งที่อิหร่านหรือกลุ่มต่อต้านต้องการ โดยเขากล่าวถึงกระทำในอดีตของอิหร่าน เช่น การตอบสนองอย่างมีวิจารณญาณต่อการโจมตีของอิสราเอลที่สถานกงสุลของอิหร่านในซีเรียเมื่อต้นเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นตัวอย่างของแนวทางเชิงยุทธศาสตร์ของอิหร่าน
กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านรายงานว่า นายฮานิเยห์ ซึ่งได้รับเชิญให้เข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอิหร่านของนายมาซูด เปเซชเคียน เมื่อวันอังคาร (30 ก.ค.) ได้ถูกสังหารพร้อมกับบอดี้การ์ดของเขาในช่วงเช้าวานนี้ ในเหตุการณ์การโจมตีบ้านพักของพวกเขาในกรุงเตหะราน โดยกองกำลังฯ ได้กล่าวหาว่า อิสราเอลเป็นผู้ก่อการร้ายในการโจมตีครั้งนี้ และให้คำมั่นว่าจะทำการตอบโต้อย่างรุนแรงและเจ็บปวด
ด้านนายอาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านกล่าวว่า อิสราเอลได้เตรียมการสำหรับการลงโทษตัวเองอย่างรุนแรง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การลอบสังหารนายฮานีเยห์โดยอิสราเอลนั้นเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่อิสราเอลอ้างว่ามีการโจมตีในกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน จนทำให้นายฟูอัด โชกอร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เสียชีวิต