รัฐคาโน ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไนจีเรีย ได้ประกาศเคอร์ฟิว หลังประชาชนก่อม็อบเพื่อประท้วงเรื่องค่าครองชีพ แต่ทางสำนักงานผู้ว่าการรัฐคาโนเปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวมีกลุ่มอันธพาลฉวยประโยชน์จากความวุ่นวายนี้ ทั้งปล้นสะดมและทำลายทรัพย์สินเป็นวงกว้าง จนเป็นเหตุให้ประกาศเคอร์ฟิว
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ในวันแรกของการประท้วงค่าครองชีพทั่วประเทศ ประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมการชุมนุมที่รัฐคาโน ส่งผลให้ธุรกิจจำนวนมากต้องปิดตัวลง ขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงในเมืองใหญ่ ๆ ต่างออกมาเดินขบวนตามท้องถนน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงกระสุนจริงและแก๊สน้ำตา ทั้งยังฉีดน้ำร้อนเพื่อพยายามสลายผู้ชุมนุมหลายพันคนในเมืองคาโน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 รายและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว
ก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้ประท้วงได้จุดไฟเผายางรถยนต์เพื่อก่อกองไฟด้านนอกบ้านพักของนายอับบา กาบีร์ ยูซุฟ ผู้ว่าการรัฐคาโน อีกทั้งยังมีผู้คนพบเห็นว่ามีผู้บุกเข้าไปในโกดังบริเวณใกล้เคียงบ้านหลังนี้ พร้อมขนกล่องน้ำมันพืชสำหรับปรุงอาหารขนาด 25 ลิตร และที่นอนออกไป
ทั้งนี้ การประกาศเคอร์ฟิวนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อขัดขวางไม่ให้การประท้วงดำเนินต่อไป และห้ามไม่ให้ประชาชนออกนอกเคหสถาน
ผลการสำรวจสำมะโนประชากรครั้งล่าสุดในไนจีเรียเมื่อปี 2549 ระบุว่า รัฐคาโนมีประชากร 9.4 ล้านคน ทว่าปัจจุบันคาดว่าจะมีประชากรเพิ่มขึ้นแตะ 20 ล้านคน
การประท้วงครั้งนี้มีกำหนดจัดขึ้นเป็นเวลา 10 วัน และจัดขึ้นผ่านโซเชียลมีเดีย โดยได้รับแรงบันดาลใจจากความสำเร็จของกลุ่มผู้ประท้วงในเคนยาที่บังคับให้รัฐบาลยกเลิกแผนขึ้นภาษี