ข้อมูลของทางการสหรัฐระบุว่า จำนวนผู้อพยพที่ข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมายที่ชายแดนทางใต้ของสหรัฐลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนของสหรัฐได้จับกุมผู้อพยพราว 57,000 คนตามแนวชายแดนในเดือนก.ค. ซึ่งถือเป็นจำนวนที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2563
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ตัวเลขดังกล่าวลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับเดือนธ.ค. 2566 ซึ่งมีผู้อพยพราว 250,000 คนถูกจับขณะข้ามชายแดน
ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนระบุว่า จำนวนผู้อพยพผิดกฎหมายที่ลดลงดังกล่าวเป็นผลมาจากความพยายามในช่วงที่ผ่านมาของปธน.ไบเดนในการจัดการกับผู้อพยพผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญสำหรับพรรคเดโมแครตในปีนี้ที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 5 พ.ย.
นายอเลฮานโดร มายอร์กาส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสในสัปดาห์นี้ว่า "นี่คือผลจากการดำเนินการหลายอย่างของรัฐบาลชุดนี้"
นายมายอร์กาสกล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวนั้นรวมถึงคำสั่งฝ่ายบริหารที่ปธน.ไบเดนลงนามเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐส่งผู้อพยพกลับประเทศโดยไม่ต้องพิจารณาคำร้องขอสถานะผู้ลี้ภัย
มาตรการดังกล่าวถือเป็นนโยบายด้านพรมแดนที่เข้มงวดที่สุดของประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสมาชิกฝ่ายซ้ายของพรรค
ข้อมูลของรัฐบาลแสดงให้เห็นว่า จำนวนผู้อพยพซึ่งอยู่ที่ชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโกนั้นลดลงตั้งแต่ก่อนการออกคำสั่งดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนสามารถจับกุมผู้อพยพผิดกฎหมายได้ 141,000 รายในเดือนก.พ., 137,000 รายในเดือนมี.ค., 129,000 รายในเดือนเม.ย., 118,000 รายในเดือนพ.ค. และ 84,000 รายในเดือนมิ.ย.