สำนักนายกรัฐมนตรีอิตาลีเปิดเผยเมื่อวานนี้ (3 ส.ค.) ว่า 7 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ได้แก่ อิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน โปรตุเกส เนเธอร์แลนด์ และโปแลนด์ ได้ร่วมกันเรียกร้องให้ทางการเวเนซุเอลาเปิดเผยผลคะแนนการเลือกตั้งอย่างละเอียดโดยเร็ว เพื่อให้มั่นใจถึงความโปร่งใสในการเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แถลงการณ์ร่วมของ 7 ประเทศสมาชิกอียูนี้ เป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลเวเนซุเอลาในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ของเวเนซุเอลา ประกาศผลให้นายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีคนปัจจุบันที่ครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 2556 คว้าชัยในศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ด้วยคะแนนเสียง 51%
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านของเวเนซุเอลาระบุว่า ผลนับคะแนนราว 90% ชี้ว่า นายเอ็ดมุนโด กอนซาเลซ ผู้สมัครของฝ่ายค้าน กวาดคะแนนทิ้งห่างปธน.มาดูโรเกือบ 2 เท่า สอดคล้องกับผลโพลอิสระที่จัดทำขึ้นก่อนการเลือกตั้ง
ก่อนหน้านี้ บราซิล เม็กซิโก และโคลอมเบีย ก็เรียกร้องให้เวเนซุเอลาเปิดเผยผลคะแนนการเลือกตั้งอย่างละเอียด ขณะที่สหรัฐกล่าวว่าผู้สมัครฝ่ายค้านเป็นฝ่ายชนะ ท่ามกลางข้อพิพาทเรื่องผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จุดชนวนม็อบประท้วงลุกลาม
บางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกาและอาร์เจนตินา ได้ประกาศรับรองให้กอนซาเลซเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่ม G7 ได้แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับประชาชนชาวเวเนซุเอลา และแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง