รัสเซียกล่าวหาว่ากองทัพยูเครนได้บุกข้ามพรมแดนเข้าสู่ภูมิภาคเคิร์สก์ซึ่งหากได้รับการยืนยัน จะถือว่าเป็นการบุกจู่โจมข้ามพรมแดนครั้งแรกของยูเครน และสร้างแรงกดดันต่อรัสเซียในพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามที่ดำเนินมา 2 ปี
กระทรวงกลาโหมรัสเซีย คณะกรรมการสืบสวนของรัสเซีย และผู้ตรวจการแผ่นดินด้านเด็กของรัสเซียต่างกล่าวหาว่า กองทัพยูเครนได้เปิดฉากโจมตีครั้งใหญ่เมื่อวันอังคาร (6 ส.ค.) โดยพยายามบุกทะลวงแนวกั้นของรัสเซียบริเวณพื้นที่ชายแดนของภูมิภาคเคิร์สก์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคซูมีของยูเครน
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เรียกการบุกข้ามพรมแดนครั้งนี้ว่าเป็นการยั่วยุครั้งใหญ่ โดยกล่าวหาว่า ยูเครนเปิดฉากยิงอย่างไม่เลือกหน้าด้วยอาวุธประเภทต่าง ๆ รวมถึงขีปนาวุธ ต่อเป้าหมายที่เป็นอาคารของพลเรือน บ้านเรือนที่พักอาศัย และรถพยาบาล
อย่างไรก็ดี ขอบเขตการโจมตีนั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด ซึ่งรวมถึงว่ากองทหารยูเครนได้ยึดพื้นที่ตั้งถิ่นฐานใด ๆ หรือสร้างความเสียหายให้กับเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ใด ๆ หรือไม่ อีกทั้งยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ทหารยูเครนยังคงอยู่ในดินแดนรัสเซียหรือไม่
กระทรวงสาธารณสุขของรัสเซียระบุว่า มีประชาชน 31 ราย รวมทั้งเด็ก 6 ราย ได้รับบาดเจ็บจากเหตุโจมตีด้วยระเบิดของกองทัพยูเครนในภูมิภาคเคิร์สต์
ทั้งนี้ นายอเล็กซี สเมียร์นอฟ รักษาผู้ว่าการภูมิภาคเคิร์สก์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ โดยระบุว่ามีความจำเป็นเพื่อรับมือกับผลกระทบจากการที่กองทัพของศัตรูบุกเข้ามาในภูมิภาค