สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เปิดเผยในวันจันทร์ (12 ส.ค.) ว่า ทางหน่วยงานกำลังดำเนินการตรวจสอบหลังจากที่คณะหาเสียงของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า การสื่อสารภายในถูกแฮกและกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของรัฐบาลอิหร่าน
อดีตปธน.ทรัมป์กล่าวเมื่อวันเสาร์ (10 ส.ค.) ว่า ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ให้ข้อมูลกับคณะหาเสียงของเขาว่า อิหร่านได้แฮก 1 ในเว็บไซต์ของคณะหาเสียง แต่อิหร่านเข้าถึงได้เฉพาะข้อมูลที่เปิดต่อสาธารณะเท่านั้น
นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ยังรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวอีกว่า FBI กำลังตรวจสอบการแฮกที่มุ่งเป้าไปยังที่ปรึกษาของคณะหาเสียงของปธน.โจ ไบเดน และรองปธน.คามาลา แฮร์ริส ด้วยเช่นเดียวกัน
แหล่งข่าวระบุว่า FBI เริ่มตรวจสอบการแฮกดังกล่าวในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นช่วงที่ปธน.ไบเดนยังคงไม่ถอนตัวจากศึกชิงเก้าอี้ปธน.สหรัฐ โดยตั้งข้อสงสัยว่า อิหร่านเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความพยายามในการจารกรรมข้อมูลจากคณะหาเสียงของแคนดิเดตปธน.ทั้งสองฝั่ง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คณะหาเสียงของนางแฮร์ริสยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าว ส่วนรัฐบาลอิหร่านปฏิเสธว่าไม่ได้แฮกข้อมูลคณะหาเสียงของอดีตปธน.ทรัมป์แต่อย่างใด
ทั้งนี้ คณะหาเสียงของอดีตปธน.ทรัมป์ได้อ้างถึงรายงานของไมโครซอฟท์ โดยทีมนักวิจัยจากไมโครซอฟท์เปิดเผยเมื่อวันที่ 9 ส.ค. ว่า แฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลอิหร่านพยายามเจาะระบบบัญชีของ "เจ้าหน้าที่ระดับสูง" ในทีมหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่แฮกเกอร์สามารถเจาะระบบบัญชีของเจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นระดับเคาน์ตีได้สำเร็จเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้า
รายงานยังระบุด้วยว่า การกระทำนี้ดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามครั้งใหญ่ของกลุ่มแฮกเกอร์อิหร่านในการล้วงข้อมูลเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งของสหรัฐ โดยมุ่งเป้าไปที่รัฐที่ไม่มีแนวโน้มชัดเจนว่าจะโหวตให้พรรคใด (swing state)