ทำเนียบขาวเผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (12 ส.ค.) ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน สนับสนุนแนวคิดยกเลิกการเก็บภาษีทิปสำหรับพนักงานบริการและพนักงานในธุรกิจโรงแรม
"แน่นอนค่ะ" คารีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาว ตอบคำถามผู้สื่อข่าวระหว่างการแถลงข่าวเมื่อถูกถามว่าหากกฎหมายดังกล่าวผ่านสภาคองเกรส ปธน.ไบเดนจะลงนามหรือไม่ "นี่เป็นสิ่งที่ท่านปธน.สนับสนุน ท่านสนับสนุนทั้งการยกเลิกภาษีทิปสำหรับพนักงานบริการและพนักงานในธุรกิจโรงแรม" รวมถึงการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำด้วย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่นางคามาลา แฮร์ริส รองปธน.สหรัฐ และผู้สมัครชิงตำแหน่งปธน.จากพรรคเดโมแครต กล่าวในรัฐเนวาดาเมื่อวันเสาร์ (10 ส.ค.) ว่า เธอสนับสนุนการยกเลิกภาษีทิป
จุดยืนเรื่องภาษีทิปของนางแฮร์ริสคล้ายคลึงกันกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งของเธอ โดยนโยบายนี้ถูกมองว่ามีขึ้นเพื่อหวังคะแนนเสียงจากกลุ่มพนักงานบริการ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีขนาดใหญ่และมีอิทธิพลทางการเมืองในรัฐเนวาดา โดยคาดว่าผลการเลือกตั้งในปี 2567 ในรัฐนี้จะออกมาสูสี การสนับสนุนนโยบายดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่หาได้ยากที่แคนดิเดตปธน.จากสองพรรคใหญ่จะเห็นพ้องต้องกัน
คณะกรรมการเพื่องบประมาณรัฐบาลกลางที่มีความรับผิดชอบ (Committee for a Responsible Federal Budget) ประเมินว่าข้อเสนอของนางแฮร์ริสที่จะยกเว้นภาษีเงินได้จากทิปและขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนั้น อาจทำให้รัฐบาลขาดดุลเพิ่มขึ้นถึง 1-2 แสนล้านดอลลาร์ หรือมากกว่านั้น ภายในเวลา 10 ปี
ด้านนายทรัมป์ที่เคยประกาศในงานปราศรัยที่ลาสเวกัสเมื่อเดือนมิ.ย.ว่าจะพยายามยกเลิกการเก็บภาษีเงินได้จากทิปนั้น ได้กล่าวหานางแฮร์ริสว่าขโมยไอเดียนโยบายของเขาไปใช้
"คามาลา แฮร์ริส ที่ช่วง 'ฮันนีมูนทางการเมือง' กำลังจะหมดแล้ว... เพิ่งมาก๊อปปี้นโยบาย 'ไม่เก็บภาษีทิป' ของผม แต่ความต่างคือ เธอไม่มีทางทำจริงหรอก แค่อยากได้คะแนนเสียงเท่านั้นแหละ!" นายทรัมป์โพสต์ในแอปทรูธโซเชียล (Truth Social) ของตน
เจ้าหน้าที่ในทีมหาเสียงของนางแฮร์ริสชี้แจงว่า ข้อเสนอนี้จะต้องผ่านการพิจารณาและอนุมัติจากสภาคองเกรสเสียก่อน
เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวอธิบายว่า หากได้เป็นปธน. นางแฮร์ริสจะร่วมมือกับสภาคองเกรสในการร่างข้อเสนอที่มีการกำหนดเพดานรายได้และเงื่อนไขที่รัดกุม เพื่อป้องกันไม่ให้พวกผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์หรือทนายความมาแอบอ้างปรับโครงสร้างค่าตอบแทนของตัวเอง เพื่อหาประโยชน์จากนโยบายนี้