สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้แห่งสหประชาชาติ (UNRWA) เปิดเผยในวันอังคาร (13 ส.ค.) ว่า พื้นที่เกือบ 84% ของฉนวนกาซาอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพที่ประกาศโดยกองทัพอิสราเอล
"ชาวบ้านต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอด คว้าอะไรได้ก็คว้า และทิ้งทุกอย่างที่เหลือไว้เบื้องหลัง แต่ละคนเหนื่อยล้าและไม่มีที่ปลอดภัยให้พักพิง" UNRWA โพสต์ผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์
นับตั้งแต่สงครามในฉนวนกาซาเปิดฉากขึ้น กองทัพอิสราเอลได้สั่งให้ชาวบ้านอพยพออกจากที่อยู่อาศัยเพื่อปฏิบัติการทางทหาร โดยผู้พลัดถิ่นต้องไปหลบภัยในที่พักพิงของ UNRWA หรือพักอาศัยอยู่กับญาติ หรือกางเต็นท์ตามท้องถนนและโรงเรียน
สำนักงานสื่อของรัฐบาลกาซาที่กำกับดูแลโดยกลุ่มฮามาส ระบุว่า ประชาชน 2 ล้านคนจากทั้งหมด 2.3 ล้านคนในฉนวนกาซา ต้องพลัดถิ่นเพราะความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สงครามในฉนวนกาซาเปิดฉากขึ้นหลังกลุ่มฮามาสบุกโจมตีเมืองทางตอนใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,200 คน และอีกราว 250 คนถูกจับเป็นตัวประกันกลับไปยังฉนวนกาซา
ส่วนในฉนวนกาซานั้น กระทรวงสาธารณสุขฉนวนกาซาระบุว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 39,929 คน
เมื่อไม่นานมานี้ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้ออกมาเตือนว่า ฉนวนกาซาทั้งหมดมีความเสี่ยงสูงที่จะตกอยู่ในภาวะขาดแคลนอาหาร ขณะที่องค์กรต่าง ๆ ของปาเลสไตน์ในฉนวนกาซารายงานว่าเกิดโรคมากมาย รวมถึงโรคผิวหนัง ตามศูนย์พักพิงที่แออัดมากเกินไป