คณะหาเสียงของนางคามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตเตรียมทุ่มเงินอย่างน้อย 370 ล้านดอลลาร์เพื่อเผยแพร่โฆษณาทางโทรทัศน์และทางออนไลน์ในรัฐสมรภูมิสำคัญ
ในช่วงระยะเวลา 9 สัปดาห์ก่อนถึงวันเลือกตั้ง คณะหาเสียงของนางแฮร์ริสจะทุ่มเม็ดเงิน 170 ล้านดอลลาร์สำหรับการโฆษณาทางโทรทัศน์ และอีก 200 ล้านดอลลาร์สำหรับการโฆษณาออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น ฮูลู (Hulu), ยูทูบ (Youtube), พาราเมาท์ (Paramount), และ สปอติฟาย(Spotify)
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า การประกาศดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของคณะหาเสียงที่ต้องการเลือกสปอตโฆษณาก่อนทีมหาเสียงของพรรครีพับลิกัน
"การจองล่วงหน้านั้นจะช่วยให้ทีมหาเสียงการเลือกตั้งของนางแฮร์ริสได้สล็อตโฆษณาในช่วงเวลาที่มีผู้ชมจำนวนมาก เช่น การแข่งขันกีฬาที่สำคัญ หรือรายการยอดนิยมระดับชาติ ก่อนที่สล็อตเหล่านั้นจะถูกขายจนหมด" นายเควนติน ฟุลค์ส และนายร็อบ ฟลาเฮอร์ตี รองผู้จัดการคณะหาเสียงเลือกตั้งของนางแฮร์ริสกล่าว
ข้อมูลของแอดอิมแพ็กต์ (AdImpact) บริษัทติดตามการใช้จ่ายโฆษณา ระบุว่า นับตั้งแต่นางแฮร์ริสก้าวขึ้นเป็นตัวแทนพรรคชิงตำแหน่งประธานาธิบดี แคมเปญหาเสียงของเธอได้ออกอากาศทางโทรทัศน์และวิทยุคิดเป็นมูลค่า 33 ล้านดอลลาร์ และอีก 43 ล้านดอลลาร์กับการโฆษณาผ่านทางเฟซบุ๊ก (Facebook) และกูเกิล (Google)
นอกจากนี้ คณะหาเสียงของนางแฮร์ริสวางแผนจะเปิดตัวโฆษณาครั้งใหญ่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของการเลือกตั้ง หลังจากที่ทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตได้จัดการประชุมใหญ่แล้ว และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐได้พยายามโน้มน้าวผู้มีสิทธิเลือกตั้งในรัฐที่พรรคการเมืองได้รับคะแนนสนับสนุนสูสีกัน (Swing State)
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับแคมเปญหาเสียงของปธน.ไบเดนเมื่อปี 2563 คณะหาเสียงของนางแฮร์ริสกล่าวว่า การใช้จ่ายด้านโฆษณาทางทีวีเพิ่มขึ้นจากเดิม 2 เท่าในรัฐเพนซิลเวเนีย, เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าในรัฐวิสคอนซิน, 4 เท่าในรัฐจอร์เจีย และ 6 เท่าในรัฐเนวาดา