นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา เดินทางถึงกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ในวันอาทิตย์ (18 ส.ค.) โดยถือเป็นการเยือนตะวันออกกลางครั้งล่าสุดเพื่อพยายามผลักดันข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา ขณะที่กลุ่มฮามาสกล่าวว่าอิสราเอลขัดขวางความพยายามในการหยุดยิงในฉนวนกาซา
กลุ่มฮามาสกล่าวว่า นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เป็นตัวการบ่อนทำลายความพยายามในการเจรจา ทำให้ข้อตกลงล่าช้า และทำให้ตัวประกันชาวอิสราเอลในฉนวนกาซาตกอยู่ในอันตรายไม่ต่างจากชาวปาเลสไตน์
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า ในทริปเยือนตะวันออกกลางครั้งที่ 9 นับตั้งแต่การสู้รบเปิดฉากขึ้นเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว นายบลิงเกนมีกำหนดการพบกับผู้นำระดับสูงของอิสราเอล ซึ่งรวมถึงนายกฯ เนทันยาฮู ในวันนี้ (19 ส.ค.) และเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจการเยือนอิสราเอล นายบลิงเกนมีกำหนดการเยือนอียิปต์เป็นประเทศต่อไป
เจ้าหน้าที่อาวุโสในรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ระหว่างเดินทางไปยังกรุงเทลอาวีฟว่า ตอนนี้การเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงสงบศึกและปล่อยตัวประกันจากฉนวนกาซาได้ดำเนินมาถึง "จุดเปลี่ยน" แล้ว โดยระบุว่า "เราคิดว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่ง"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประเทศที่เป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ย ได้แก่ กาตาร์ สหรัฐ และอียิปต์ คว้าน้ำเหลวในการลดความขัดแย้งเพื่อบรรลุข้อตกลงในการเจรจาที่ยืดเยื้อมานานหลายเดือน ขณะที่ความรุนแรงในฉนวนกาซายังคงดำเนินต่อไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะยุติลง
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของปาเลสไตน์เปิดเผยว่า การโจมตีของอิสราเอลส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 รายในฉนวนกาซาในวันอาทิตย์ รวมถึงเด็ก 6 คนและแม่ของเด็ก ๆ อันเป็นผลมาจากการโจมตีทางอากาศบ้านหลังหนึ่งในเมืองเดียร์ อัล-บาลาห์ ทางตอนกลางของฉนวนกาซา ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในดินแดนปาเลสไตน์พุ่งสูงเกิน 40,000 รายแล้ว