นายพล มีโคลา โอเลชุก ผู้บัญชาการกองทัพอากาศยูเครน เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (18 ส.ค.) ว่า กองทัพอากาศยูเครนได้ทำลายสะพานข้ามแม่น้ำเซม (Seym River) แห่งที่สองในแคว้นคุสค์ของรัสเซีย ซึ่งลดทอนความสามารถของรัสเซียในการส่งกำลังบำรุงกองทัพเพื่อต่อต้านการรุกคืบของยูเครน
ยูเครนระบุว่า กองทัพสามารถเข้ายึดนิคมได้มากกว่า 80 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,150 ตร.กม.ในแคว้นคุสค์ นับตั้งแต่เปิดฉากโจมตีข้ามพรมแดนฉับพลันเมื่อวันที่ 6 ส.ค. ซึ่งถือเป็นการรุกรานรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง
"ในแคว้นคุสค์ สะพานหายไปอีกหนึ่ง! กองทัพอากาศของเรายังคงโจมตีทางอากาศอย่างแม่นยำ ตัดกำลังรบฝ่ายศัตรู ป่วนระบบส่งกำลังบำรุง ซึ่งส่งผลอย่างมากต่อรูปการณ์ในการสู้รบ" นายพลโอเลชุกระบุผ่านแอปเทเลแกรม
พร้อมกันนี้ นายพลโอเลชุกได้โพสต์คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นกลุ่มควันขนาดใหญ่พวยพุ่งจากการระเบิดสะพาน พร้อมกับภาพส่วนหนึ่งของสะพานที่พังทลาย
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์ยังไม่สามารถตรวจสอบยืนยันความเสียหายของสะพาน รวมถึงสถานการณ์ ณ พื้นที่สู้รบในแคว้นคุสค์ได้
ด้านนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวในแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ช่วงค่ำว่า "ปฏิบัติการของเราในแคว้นคุสค์ยังคงสร้างความเสียหายให้กับกองทัพรัสเซีย รัฐบาลรัสเซีย อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ และเศรษฐกิจของรัสเซีย"
ปธน.เซเลนสกีได้กล่าวขอบคุณกองกำลังยูเครนที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการในแคว้นคุสค์และแนวรบด้านตะวันออก พร้อมทั้งเรียกร้องให้ชาติพันธมิตรเร่งส่งมอบความช่วยเหลือทางทหารตามที่สัญญาไว้
"เรื่องการส่งมอบความช่วยเหลือจากพันธมิตร เราอยากให้เร็วกว่านี้อีก เพราะสงครามไม่มีวันหยุดพัก" ปธน.เซเลนสกีระบุ
ทั้งนี้ รัสเซียเรียกการรุกรานดังกล่าวว่าเป็นการยั่วยุครั้งใหญ่ และประกาศกร้าวว่าจะตอบโต้อย่างสาสม หลังจากที่รัสเซียบุกยูเครนอย่างเต็มรูปแบบมานานกว่า 2 ปีครึ่ง
สำหรับสะพานแห่งนี้เป็นแห่งที่สองที่ยูเครนโจมตีนับตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ส.ค.)
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ทางทหารระบุว่า มีสะพานสามแห่งในพื้นที่ที่กองทัพยูเครนบุก ซึ่งรัสเซียใช้ในการส่งกำลังบำรุงกองทัพ และสะพานสองในสามแห่งถูกทำลายหรือได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง