ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ต่อสายตรงถึงนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล เมื่อวันพุธ (21 ส.ค.) เพื่อเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเพื่อช่วยเหลือตัวประกัน และชี้ว่าการเจรจาที่กำลังจะมีขึ้นที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ มีความสำคัญอย่างยิ่ง
การพูดคุยกันทางโทรศัพท์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากทริปเยือนตะวันออกกลางของนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐสิ้นสุดลงเมื่อวันอังคาร (20 ส.ค.) โดยปราศจากข้อตกลงสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสในฉนวนกาซา และมีขึ้นก่อนที่คณะผู้เจรจาซึ่งพยายามมานานหลายเดือนเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงหยุดยิง จะประชุมร่วมกันที่เมืองหลวงของอียิปต์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ทำเนียบข่าวเปิดเผยเกี่ยวกับการสนทนาทางโทรศัพท์ของสองผู้นำในแถลงการณ์ว่า "ท่านปธน.ได้เน้นย้ำถึงความเร่งด่วนของการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกัน และได้หารือเกี่ยวกับการเจรจาที่กำลังจะมีขึ้นในกรุงไคโร เพื่อขจัดอุปสรรคใด ๆ ที่ยังคงเหลืออยู่"
นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังระบุอีกว่า ไบเดนและเนทันยาฮูได้หารือถึงความพยายามของสหรัฐที่จะสนับสนุนอิสราเอล "เพื่อต่อต้านภัยคุกคามทุกประเภทจากอิหร่าน รวมถึงกลุ่มก่อการร้ายตัวแทนอย่างฮามาส ฮิซบอลเลาะห์ และฮูตี รวมถึงการส่งกำลังทหารสหรัฐเข้าประจำการเพื่อปกป้องดินแดนอย่างต่อเนื่อง"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รองปธน.คามาลา แฮร์ริส ซึ่งเตรียมขึ้นเวทีประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตเพื่อรับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคชิงเก้าอี้ปธน.สหรัฐในการเลือกตั้งซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 5 พ.ย. ก็ออกมาเรียกร้องในประเด็นดังกล่าวด้วยเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ อิหร่านประกาศกร้าวว่าจะตอบโต้กรณีการลอบสังหารนายอิสมาอิล ฮานิเยห์ แกนนำกลุ่มฮามาสในกรุงเตหะรานเมื่อวันที่ 31 ก.ค. โดยอิหร่านโทษว่าอิสราเอลอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ ขณะที่อิสราเอลไม่ได้ออกมายอมรับหรือปฏิเสธแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน สหรัฐสั่งการให้ส่งเรือดำน้ำติดขีปนาวุธนำวิถีไปประจำการยังตะวันออกกลาง และสั่งให้กองเรือจู่โจมอับราฮัม ลินคอล์น เร่งส่งเรือดำน้ำไปยังภูมิภาคเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการป้องกันอิสราเอล