สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) ประกาศอนุมัติใช้วัคซีนโควิดรุ่นใหม่จากบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) และโมเดอร์นา (Moderna) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (22 ส.ค.) เพื่อปูทางให้ชาวอเมริกันส่วนใหญ่เข้าถึงวัคซีนรุ่นใหม่ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงฤดูร้อน
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐ (CDC) ระบุว่า การฉีดวัคซีนมุ่งเป้าไปที่โควิด-19 สายพันธุ์ KP.2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน JN.1 ที่แพร่ระบาดเป็นวงกว้างในสหรัฐเมื่อต้นปีนี้ โดย KP.2 เป็นสายพันธุ์ระบาดหลักในเดือนพ.ค. แต่ตอนนี้คิดเป็นประมาณ 3% ของผู้ป่วยทั้งหมดในสหรัฐเมื่อนับจนถึงวันเสาร์ (17 ส.ค.)
ไฟเซอร์และโมเดอร์นาเปิดเผยว่า วัคซีนสำหรับสายพันธุ์ KP.2 สามารถกระตุ้นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์ย่อยอื่น ๆ ของ JN.1 เช่น KP.3 และ LB.1 ได้ด้วยเช่นกัน แถมยังแข็งแกร่งกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับวัคซีนของปีที่แล้วที่มุ่งเป้าไปที่สายพันธุ์โอมิครอน XBB.1.5
"เนื่องจากภูมิคุ้มกันของประชาชนจากการติดเชื้อไวรัสและการฉีดวัคซีนในอดีตลดลง เราขอแนะให้ผู้ที่มีสิทธิ์พิจารณาเข้าฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 รุ่นใหม่ เพื่อป้องกันจากโควิดสายพันธุ์ย่อยที่แพร่ระบาดอยู่ในปัจจุบัน" ดร.ปีเตอร์ มาร์กส์ ผู้อำนวยการศูนย์ประเมินและวิจัยทางชีววิทยาในสังกัด FDA ระบุในแถลงการณ์
ทั้งนี้ บริษัทไฟเซอร์จะเริ่มจัดส่งวัคซีนรุ่นใหม่ทันที และคาดว่าจะมีให้ฉีดในร้านขายยา โรงพยาบาล และคลินิกทั่วประเทศ ขณะที่โมเดอร์นาคาดว่าจะพร้อมส่งมอบในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน