สายการบินหลัก ๆ ในยุโรปต่างประกาศระงับเที่ยวบินเข้า-ออกอิสราเอลและเลบานอนในวันอาทิตย์ (25 ส.ค.) หลังจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนทวีความรุนแรงขึ้น
สถานีโทรทัศน์ BFMTV ของฝรั่งเศส รายงานว่า สายการบินแอร์ฟรานซ์ (Air France) ได้ตัดสินใจระงับเที่ยวบินไปยังกรุงเทลอาวีฟของอิสราเอลและกรุงเบรุตของเลบานอนจนถึงวันจันทร์ (26 ส.ค.) พร้อมเสริมว่าอาจมีการขยายเวลาระงับเที่ยวบินหลังการประเมินสถานการณ์อีกครั้งในวันนี้
ขณะเดียวกัน สายการบินบริติช แอร์เวย์ (British Airways) ก็ประกาศระงับเที่ยวบินไป-กลับกรุงเทลอาวีฟจนถึงวันพุธ (28 ส.ค.) ขณะที่สายการบินวิซซ์ แอร์ (Wizz Air) สายการบินราคาประหยัดของฮังการี ได้ประกาศผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทว่า "เนื่องจากสถานการณ์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในภูมิภาค วิซซ์ แอร์ จึงขอระงับเที่ยวบินเข้า-ออกอิสราเอลเป็นการชั่วคราวในวันที่ 25 ส.ค."
ทางด้านสายการบินอีเจียน แอร์ไลน์ (Aegean Airlines) สายการบินแห่งชาติของกรีซ ระบุผ่านเว็บไซต์ว่าได้ยกเลิก 3 เที่ยวบินไปยังกรุงเทลอาวีฟ และ 2 เที่ยวบินไปยังกรุงเบรุตในวันอาทิตย์ รวมทั้งอีก 1 เที่ยวบินในวันนี้
นอกจากนี้ สายการบินลุฟท์ฮันซ่า (Lufthansa) ของเยอรมนี ได้ขยายเวลาระงับเที่ยวบินไปยังกรุงเบรุตจนถึงวันที่ 30 ก.ย. รวมทั้งขยายเวลาระงับเที่ยวบินไปยังกรุงเทลอาวีฟและกรุงเตหะรานจนถึงวันที่ 2 ก.ย.
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กองกำลังอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้เปิดฉากโจมตีกันอย่างหนักเมื่อเช้าวันอาทิตย์ตามแนวชายแดนอิสราเอล-เลบานอน ทำให้ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศที่ยืดเยื้อทวีความรุนแรงขึ้น
ทั้งนี้ ภายหลังการปะทะกันอย่างรุนแรง เดวิด แลมมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ และจอห์น ฮีลีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอังกฤษ ได้ระบุผ่านทางแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า ได้ติดต่อกับรมว.ต่างประเทศและรมว.กลาโหมอิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์ เพื่อเรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันที