กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และหน่วยพิทักษ์ประธานาธิบดีของสหรัฐ (US Secret Service) เปิดเผยในวันพฤหัสบดี (29 ส.ค.) ว่า พลเอกลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ตอบรับคำร้องที่จะเพิ่มการสนับสนุนทางการทหารเพิ่มเติมให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ฯ สำหรับการคุ้มกันแคนดิเดตประธานาธิบดีและรองปธน.ในศึกเลือกตั้งที่จะถึงนี้
ซาบรีนา ซิงห์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการสนับสนุนที่จะได้รับ แต่ระบุว่า พลเอกออสตินได้สั่งการให้กองบัญชาการภาคเหนือของสหรัฐฯ วางแผนและให้การสนับสนุนแก่หน่วยพิทักษ์ฯ ตามสถานที่ต่าง ๆ ในช่วงที่มีการเลือกตั้ง
โฆษกของหน่วยพิทักษ์ฯ คนหนึ่ง กล่าวในเวลาต่อมาว่า หน่วยพิทักษ์ฯ ได้เสริมกำลังปฏิบัติการรักษาความปลอดภัย หลังการหาเสียงของอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ซึ่งเขาถูกยิงและรอดชีวิตจากความพยายามลอบสังหารมาได้
โฆษกของหน่วยพิทักษ์ฯ กล่าวว่า "กระทรวงกลาโหมได้มอบการสนับสนุนเพิ่มเติมให้แก่หน่วยพิทักษ์ฯ ซึ่งรวมถึงด้านโลจิสติกส์ การขนส่ง และการติดต่อสื่อสาร ตลอดฤดูเลือกตั้งปี 2567"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยการชุมนุมของอดีตปธน.ทรัมป์ที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย กำลังถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด เนื่องจากมีข้อสงสัยว่า คนร้ายสามารถเข้าถึงดาดฟ้าในบริเวณใกล้เคียงซึ่งเป็นมุมที่สามารถมองเห็นจุดที่อดีตปธน.ทรัมป์กำลังปราศรัยได้โดยตรงได้อย่างไร
หน่วยพิทักษ์ฯ ระบุว่า ทางหน่วยรู้สึก "ละอาย" กับความผิดพลาดในการอารักขา และหัวหน้าหน่วยพิทักษ์ฯ ก็ได้ลาออกจากตำแหน่งภายหลังเกิดเหตุ
ทั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมการชุมนุมเสียชีวิตจากเหตุยิงดังกล่าวหนึ่งราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย ขณะที่สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (FBI) ยังไม่สามารถระบุได้ว่าอะไรเป็นแรงจูงใจให้ผู้ก่อเหตุลงมือ