รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมเสนอลดภาษีสูงถึง 50,000 ดอลลาร์สำหรับธุรกิจขนาดเล็กเปิดใหม่ ซึ่งมากกว่าของเดิม 10 เท่า เพื่อชนะใจชาวสหรัฐฯ ชนชั้นกลาง หลังร่วมศึกชิงเก้าอี้ปธน.สหรัฐเมื่อกว่าหนึ่งเดือนที่แล้ว
แฮร์ริสมีเป้าหมายที่จะกำหนดนโยบายด้านเศรษฐกิจโดยรวมให้ตรงข้ามกับอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านภาษีศุลกากรและภาษี โดยนโยบายเศรษฐกิจก้าวหน้าของเธอมุ่งเน้นไปที่การเก็บภาษีบุคคลและบริษัทที่มีฐานะมั่งคั่ง และเพิ่มเงินทุนของรัฐบาลกลางสำหรับการดูแลเด็กและโครงการเพื่อสังคมอื่น ๆ ที่มุ่งเป้าไปที่พ่อแม่ผู้ปกครองที่ต้องทำงาน
เจ้าหน้าที่คณะหาเสียงรายหนึ่งระบุว่า แผนใหม่นี้จะเสนอให้มีการลดค่าใช้จ่ายสำหรับธุรกิจขนาดเล็กตั้งแต่ 5,000-50,000 ดอลลาร์ ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว การเริ่มต้นธุรกิจใหม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย 40,000 ดอลลาร์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างข้อมูลจากสำนักงานธุรกิจขนาดเล็กว่า ธุรกิจขนาดเล็ก 33 ล้านแห่งในสหรัฐฯ จ้างงานประมาณ 46% ของพนักงานภาคเอกชนทั้งหมด และมีสัดส่วนคิดเป็น 70% ของการจ้างงานใหม่สุทธิมาตั้งแต่ปี 2562
วาระเศรษฐกิจโดยรวมของแฮร์ริสอาจเผชิญกับการต่อต้านจากองค์กรต่าง ๆ และรัฐสภา ซึ่งจะต้องผ่านกฎหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีส่วนใหญ่ และเคยปฏิเสธข้อเสนอในลักษณะเดียวกันนี้จากปธน.โจ ไบเดน มาแล้ว