ยูเครนเผชิญการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ ท่ามกลางสถานการณ์สงครามกับรัสเซียที่ยังคงตึงเครียด โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมประกาศลาออกพร้อมกับรัฐมนตรีอีก 4 ตำแหน่ง นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศ
ก่อนหน้านี้ ส.ส.และนักวิเคราะห์การเมืองต่างคาดการณ์ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลยูเครนครั้งใหญ่ตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีแดนึส ชมือฮัล เคยออกมาส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ในการปรับโครงสร้างและยุบรวมกระทรวงบางแห่ง ซึ่งปัจจุบันมีตำแหน่งรัฐมนตรีว่างอยู่แล้วถึง 5 ตำแหน่ง รวมถึงกระทรวงเกษตรและกระทรวงโครงสร้างพื้นฐานที่ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การลาออกของโอเล็กซานเดอร์ คามีชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งรับผิดชอบด้านการผลิตอาวุธ, รองนายกรัฐมนตรีโอลฮา สเตฟานิชนา ตลอดจนรัฐมนตรีคนอื่น ๆ ที่ดูแลกระทรวงยุติธรรม สิ่งแวดล้อม และการบูรณาการดินแดน ส่งผลให้คณะรัฐมนตรีของยูเครนว่างลงไปกว่า 1 ใน 3 หลังจากที่มีการปลดรัฐมนตรีไปก่อนหน้านี้แล้ว
อิรินา เฮราชเชนโก ส.ส.ฝ่ายค้าน ออกมาวิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่า "นี่คือรัฐบาลไร้รัฐมนตรี? เป็นวิกฤตทางบุคลากรและทางปัญญาที่รัฐบาลกำลังเมินเฉย" พร้อมเรียกร้องให้จัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติเพื่อยุติการผูกขาดอำนาจของทีมการเมืองของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี
เดวิด อาราคาเมีย ส.ส.อาวุโสจากพรรคของปธน.เซเลนสกี เปิดเผยว่า จะมีการ "รีเซตรัฐบาลครั้งใหญ่" ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีมากกว่าครึ่ง
"พรุ่งนี้จะเป็นวันแห่งการปลด และมะรืนนี้จะเป็นวันแห่งการแต่งตั้ง" นายอาราคาเมียกล่าว
ทั้งนี้ ปธน.เซเลนสกีและพันธมิตรทางการเมืองอาจเร่งสรรหาบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งที่ว่างลง เพื่อสร้างเสถียรภาพก่อนที่ปธน.เซเลนสกีเดินทางเยือนสหรัฐฯ ในเดือนนี้ ซึ่งปธน.เซเลนสกีหวังที่จะนำเสนอ "แผนการสู่ชัยชนะ" ต่อปธน.โจ ไบเดน พันธมิตรคนสำคัญของยูเครน
"ฤดูใบไม้ร่วงนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับยูเครน เราต้องปรับโครงสร้างสถาบันของรัฐให้ยูเครนบรรลุเป้าหมายที่เราต้องการ เพื่อพวกเราทุกคน เราต้องเสริมความแข็งแกร่งให้กับบางส่วนของรัฐบาล และได้เตรียมการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างไว้แล้ว นอกจากนี้ยังจะมีการเปลี่ยนแปลงในสำนัก (ประธานาธิบดี) ด้วย" ปธน.เซเลนสกีกล่าวในสุนทรพจน์ช่วงค่ำ
นอกจากนี้ ปธน.เซเลนสกียังได้ปลดรอสติสลาฟ ชูร์มา รองหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายเศรษฐกิจ ออกจากตำแหน่ง ตามคำสั่งที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของปธน.
ด้านสถานีโทรทัศน์ซุสปิลเน (Suspilne) รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในพรรคของเซเลนสกี ว่า สเตฟานิชนา ซึ่งรับผิดชอบเรื่องการสมัครเข้าร่วมสหภาพยุโรป (EU) และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) อาจได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้ากระทรวงใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งรวมบทบาทเดิมของเธอกับกระทรวงยุติธรรมเข้าด้วยกัน
ขณะเดียวกัน คามีชินถือเป็นหัวหอกในการผลักดันการผลิตยุทโธปกรณ์ภายในประเทศ ทั้งโดรนโจมตีและขีปนาวุธพิสัยไกล เพื่อต่อสู้กับรัสเซียซึ่งมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เหนือกว่า
"ผมจะยังคงทำงานในภาคส่วนกลาโหม แต่ในบทบาทที่แตกต่างออกไป" คามีชิน วัย 40 ปี ซึ่งถือเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในรัฐบาล โพสต์ข้อความบนแอปเทเลแกรม (Telegram)
ทั้งนี้ คามีชินได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์ในเดือนมี.ค. 2566 หลังจากสร้างผลงานโดดเด่นในการบริหารจัดการการรถไฟแห่งชาติ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งโลจิสติกส์ที่สำคัญสำหรับพลเรือนและกองทัพในช่วงปีแรกของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่เริ่มขึ้นเมื่อเดือนก.พ. 2565
นับตั้งแต่คามีชินเข้ารับตำแหน่ง ยูเครนสามารถผลิตโดรนพิสัยไกลได้หลายพันลำเพื่อโจมตีรัสเซีย โดยเมื่อเดือนที่แล้ว ปธน.เซเลนสกีเปิดเผยว่า เคียฟได้ใช้ "โดรนขีปนาวุธ" รูปแบบใหม่เป็นครั้งแรก และยังได้ทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ด้วย
อนึ่ง ในสมรภูมิรบ ยูเครนกำลังเสี่ยงดำเนินปฏิบัติการโจมตีข้ามพรมแดนเข้าไปในภูมิภาคคุสค์ของรัสเซีย ขณะที่กองทัพรัสเซียรุกคืบอย่างรวดเร็วในภาคตะวันออกของยูเครน นอกจากนี้ รัสเซียยังได้เพิ่มการโจมตีด้วยขีปนาวุธพิสัยไกล โดยเมื่อวานนี้ รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีป 2 ลูก ถล่มสถาบันการทหารในเมืองปอลตาวา ทางตอนกลางของประเทศ ซึ่งนับเป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของปีนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 ราย และบาดเจ็บ 271 ราย