กองทัพรัสเซียเปิดฉากโจมตีทางอากาศถล่มเมืองลวิว ทางตะวันตกของยูเครน ใกล้ชายแดนโปแลนด์ในวันนี้ (4 ก.ย.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์หลายแห่งใจกลางเมืองได้รับความเสียหายอย่างหนัก
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายงานว่าในบรรดาผู้เสียชีวิตมีเด็กหญิงวัย 14 ปี พยาบาลผดุงครรภ์ และชายอีก 1 ราย ขณะที่ผู้บาดเจ็บมีอย่างน้อย 35 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 5 ราย
อันดรีย์ ซาดอวึย นายกเทศมนตรีเมืองลวิว เปิดเผยผ่านคลิปวิดีโอที่โพสต์ลงเทเลแกรมว่า อาคารกว่า 50 แห่ง ทั้งโรงเรียน บ้านเรือน และคลินิก ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง ได้รับความเสียหายจากการโจมตีครั้งนี้ ซึ่งผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์ในพื้นที่ก็ยืนยันเช่นเดียวกัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร (3 ก.ย.) รัสเซียได้โจมตีสถาบันการทหารในเมืองปอลตาวาด้วยขีปนาวุธ 2 ลูก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 50 ราย และบาดเจ็บหลายร้อยราย ถือเป็นเหตุการณ์โจมตีครั้งเดียวที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในปีนี้
นอกจากนี้ ในวันพุธ รัสเซียยังได้ยิงขีปนาวุธโจมตีกรุงเคียฟและอีกหลายแคว้น แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย
การโจมตีครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับความรุนแรงของรัสเซีย หลังจากที่ได้เปิดฉากโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนหลายร้อยลำทั่วประเทศยูเครนในช่วง 10 วันที่ผ่านมา ซึ่งบล็อกเกอร์ทางทหารบางคนของรัสเซียวิเคราะห์ว่าเป็นการตอบโต้ที่ยูเครนรุกคืบเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม รัสเซียยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใด ๆ เกี่ยวกับการโจมตีที่ปอลตาวา ลวิว และเคียฟ โดยรัสเซียมักอ้างว่าเป้าหมายการโจมตีคือโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร พลังงาน และการขนส่งของยูเครน ไม่ใช่พลเรือน