กระทรวงพาณิชย์ของจีนเปิดเผยในวันนี้ (5 ก.ย.) ว่า สหรัฐฯ ควรยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าจีนทั้งหมดทันที
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นก่อนรัฐบาลสหรัฐประกาศปรับขึ้นภาษีสินค้าที่ผลิตในจีน รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยคาดว่าสหรัฐฯ จะตัดสินใจขั้นสุดท้ายได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หลังจากเลื่อนการประกาศไปถึงสองครั้ง
เดิมทีสหรัฐฯ มีแผนเรียกเก็บภาษี 100% สำหรับ EV, 50% สำหรับเซมิคอนดักเตอร์และเซลล์แสงอาทิตย์ และ 25% สำหรับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน รวมถึงแร่ธาตุสำคัญ เหล็ก อลูมิเนียม เครนขนส่งสินค้าไปยังฝั่ง และหลอดฉีดยา ซึ่งควรบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.
แต่สำนักงานผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ (USTR) ชะลอการดำเนินการดังกล่าวเมื่อวันที่ 30 ก.ค. โดยระบุว่า ต้องใช้เวลามากกว่านี้ในการรับฟังความคิดเห็นจากภาคอุตสาหกรรม และกำหนดเส้นตายใหม่ในวันที่ 31 ส.ค. ซึ่งก็ถูกเลื่อนออกไปอีก
รายงานข่าวระบุว่า การเลื่อนครั้งล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากที่ เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว เข้าร่วมการเจรจากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนที่กรุงปักกิ่งหลายวัน รวมถึงการพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการจัดการความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน
เหอ หยงเฉียน โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน แถลงต่อสื่อมวลชนว่า การเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนนั้นทำให้สถานการณ์แย่กว่าเดิม โดย "จีนยื่นคำคัดค้านอย่างเป็นทางการต่อสหรัฐฯ เกี่ยวกับการเก็บภาษีตามมาตรา 301 มาแล้วหลายครั้ง"
นอกจากนี้ คณะทำงานด้านการค้าจีน-สหรัฐฯ มีกำหนดจัดการประชุมครั้งที่ 2 ในเมืองเทียนจินทางตอนเหนือของจีนในวันที่ 7 ก.ย. หลังจากที่เคยจัดครั้งแรกในเดือนเม.ย. โดยคาดว่าจะมีการเจรจาเชิงลึกในหัวข้อต่าง ๆ รวมถึงข้อกังวลเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจและการค้า