รัสเซียเปิดฉากการซ้อมรบทางทะเลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปี โดยมีเรือรบมากกว่า 400 ลำ และเครื่องบิน 120 ลำ ตลอดจนกองกำลังจากจีนเข้าร่วม ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวในพิธีเปิดว่า การซ้อมรบครั้งนี้เน้นย้ำให้เห็นถึงภัยคุกคามจากสหรัฐฯ
การซ้อมรบเชิงยุทธศาสตร์ในชื่อ "Ocean 2024" เริ่มต้นขึ้นในวันอังคาร (10 ก.ย.) และจะดำเนินไปจนถึงวันจันทร์ที่ 16 ก.ย. กินพื้นที่ครอบคลุมมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอาร์กติก ทะเลญี่ปุ่น รวมถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทะเลแคสเปียน และทะเลบอลติก โดยมีการระดมกำลังทหารกว่า 90,000 นาย ขณะที่กองทัพจีนส่งเรือรบ 4 ลำ และเครื่องบิน 15 ลำ เข้าร่วมในปฏิบัติการซ้อมรบครั้งนี้
สำนักข่าว TASS ของทางการรัสเซียรายงานว่า ปธน.ปูตินกล่าวเปิดการซ้อมรบดังกล่าวผ่านข้อความทางวิดีโอ โดยกล่าวโจมตีสหรัฐฯ ว่า วอชิงตันกำลังแสวงหาข้อได้เปรียบทางทหารด้วยการกระทำที่ก้าวร้าว และทำลายดุลอำนาจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ด้านกองทัพจีนระบุว่า กองกำลังรัสเซียจะเข้าร่วมการซ้อมรบ "Northern/Interaction-2024" ซึ่งจะจัดขึ้นในทะเลญี่ปุ่นและทะเลโอคอตสก์ในเดือนกันยายน โดยการซ้อมรบครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับการประสานงานเชิงยุทธศาสตร์และความสามารถในการตอบโต้ภัยคุกคามด้านความมั่นคงร่วมกัน
เมื่อต้นสัปดาห์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวเปิดเผยว่า สหรัฐอเมริกาจะติดตามการซ้อมรบร่วมระหว่างจีนกับรัสเซียในทะเลญี่ปุ่นและน่านน้ำใกล้เคียง แต่เชื่อว่ายังไม่มีอะไรที่น่ากังวลเป็นพิเศษในขณะนี้
จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ แถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า "ทั้งสองประเทศไม่ได้ไว้วางใจกันอย่างเต็มที่ทั้งในภูมิภาคนี้หรือพื้นที่อื่น จึงไม่มีเหตุผลที่เราจะต้องเปลี่ยนท่าทีทางทหารหรือท่าทีการป้องปรามของเราเพราะความเคลื่อนไหวดังกล่าว" เคอร์บีระบุ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า จีนและรัสเซียได้ส่งเสริมความร่วมมือทางทหารมาตั้งแต่สงครามรัสเซีย-ยูเครนเปิดฉากขึ้นเมื่อเดือนก.พ. 2565 ขณะที่โลกตะวันตกแสดงความกังวลที่จีนให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศของรัสเซีย รวมถึงผลกระทบที่มีต่อความมั่นคงของยุโรปและข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก