สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายที่อาจนำไปสู่การปิดสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกง (HKETO) ในสหรัฐฯ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลฮ่องกงเป็นอย่างมาก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า พระราชบัญญัติรับรองสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน จะเปิดทางให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สามารถยกเลิกสิทธิพิเศษและความคุ้มกันของสำนักงาน HKETO ประจำวอชิงตันดีซี นิวยอร์ก และซานฟรานซิสโก หากพบว่าสำนักงานเหล่านี้ดำเนินงานโดยไม่เป็นอิสระจากจีน หรือดำเนินงานเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ
ร่างกฎหมายฉบับนี้ได้รับการอนุมัติในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 413 ต่อ 3 เมื่อวันอังคาร (10 ก.ย.) และจะต้องผ่านการเห็นชอบจากวุฒิสภา ก่อนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะลงนามเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมาย
ขณะเดียวกัน รัฐบาลฮ่องกงออกแถลงการณ์ "ประณามอย่างรุนแรง" ต่อสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่ใช้กฎหมายนี้เพื่อใส่ร้ายกฎหมายว่าด้วยการปกป้องความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง และสร้างความเสียหายต่อสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในฮ่องกง
"การโจมตีฮ่องกงด้วยการบิดเบือนข้อเท็จจริงของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีแรงจูงใจทางการเมือง ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและหลักปฏิบัติพื้นฐานที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกงอย่างร้ายแรง" รัฐบาลฮ่องกงระบุในแถลงการณ์วันนี้ (11 ก.ย.)
ปัจจุบัน ฮ่องกงมี HKETO ประจำต่างประเทศอยู่ 14 แห่ง ซึ่งรวมถึงในอังกฤษ เยอรมนี ออสเตรเลีย และแคนาดา ทั้งนี้ เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา อังกฤษได้จับกุมและตั้งข้อหาชาย 3 ราย หนึ่งในนั้นเป็นผู้จัดการ HKETO ประจำอังกฤษ เนื่องจากต้องสงสัยว่าช่วยเหลือหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของฮ่องกง
คริส สมิธ สส.พรรครีพับลิกัน และประธานคณะกรรมาธิการบริหารรัฐสภาเกี่ยวกับประเทศจีน กล่าวในการประชุมเมื่อวันอังคารว่า กฎหมายฉบับนี้เป็น "มาตรการที่จำเป็นเพื่อแสดงให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมว่าเราเป็นหนึ่งเดียวกับพลเมืองฮ่องกงที่ถูกข่มเหง" ซึ่งรวมถึงจิมมี ไล เจ้าพ่อสื่อที่ถูกจำคุก โจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย และโทนี โจว ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน