รัฐบาลเมืองสปริงฟีลด์ รัฐโอไฮโอของสหรัฐฯ ได้อพยพผู้คนออกจากศาลาว่าการเมื่อวันพฤหัสบดี (12 ก.ย.) หลังจากมีการขู่วางระเบิด ซึ่งเกิดขึ้นเพียง 2 วันหลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน กล่าวอ้างข้อมูลอันเป็นเท็จที่ทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นประเด็นถกเถียงเรื่องผู้อพยพ
รัฐบาลระบุผ่านทางโซเชียลมีเดียว่า "เนื่องจากมีการขู่วางระเบิดในสถานที่หลายแห่งทั่วเมืองสปริงฟีลด์ในวันนี้ ศาลาว่าการจึงปิดทำการวันนี้"
ร็อบ รู นายกเทศมนตรีเมืองสปริงฟีลด์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า การขู่วางระเบิดดังกล่าวมาจากผู้ที่อ้างตนว่าเป็นคนในพื้นที่ และได้แสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับปัญหาการย้ายถิ่นฐาน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมืองสปริงฟีลด์ ซึ่งมีประชากร 62,000 คน ตกเป็นเป้าความสนใจระดับชาติ หลังจากนักการเมืองพรรครีพับลิกัน รวมถึงอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวหาอย่างผิด ๆ ว่าผู้อพยพกินสุนัขและแมว ขณะที่เจ้าหน้าที่เมืองยืนยันว่าไม่มีรายงานการกินสัตว์เลี้ยงแต่อย่างใด
ข่าวลือดังกล่าวเริ่มต้นครั้งแรกจากโพสต์บนโซเชียลมีเดียที่ระบุว่า ผู้อพยพกำลังกินสัตว์เลี้ยงที่หายไปจากบ้าน
ทั้งนี้ ผู้อพยพชาวเฮติราว 15,000 คนได้เข้ามาในเมืองแห่งนี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น แต่ก็สร้างแรงกดดันต่อโรงเรียนและบริการสังคมอื่น ๆ เช่นกัน ค่าแรงเพิ่มสูงขึ้น แต่เจ้าหน้าที่เมืองระบุว่าอาชญากรรมไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
ด้านผู้นำชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายเฮติกล่าวว่า พวกเขากังวลเรื่องความปลอดภัย หลังจากที่ทรัมป์กล่าวในระหว่างการประชันวิสัยทัศน์เมื่อวันอังคาร (10 ก.ย.) กับรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตว่า "คนพวกนั้นกินสุนัข พวกที่อพยพย้ายเข้ามา พวกเขากินแมว"
ข้อกล่าวหานี้เป็นตัวอย่างของการกล่าวเท็จที่ทรัมป์มักกล่าวเป็นประจำตลอดเส้นทางอาชีพการเมืองของเขา