ยูเครนกล่าวโทษรัสเซียใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดใส่เรือบรรทุกธัญพืชของพลเรือนในระหว่างการโจมตีด้วยขีปนาวุธในทะเลดำ บริเวณน่านน้ำใกล้กับประเทศโรมาเนีย ซึ่งเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต (NATO) ส่งผลให้ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับนาโตร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้ง
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวในวันพฤหัสบดี (12 ก.ย.) ว่า เรือบรรทุกธัญพืชจากยูเครนไปยังอียิปต์ถูกโจมตีโดยขีปนาวุธรัสเซียในเวลาไม่นานหลังจากเรือลำดังกล่าวแล่นออกจากน่านน้ำยูเครน แต่ไม่มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเครนประณามการโจมตีครั้งนี้อย่างรุนแรง พร้อมกล่าวว่ารัสเซียเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว เช่นเดียวกับโฆษกของสหประชาชาติ (UN) ที่กล่าวว่าเหตุการณ์นี้เป็น "เครื่องเตือนใจที่ชัดเจน" ถึงภัยคุกคามที่เรือขนส่งสินค้าของพลเรือนยังคงต้องเผชิญอยู่ในทะเลดำ
ขณะที่รัสเซียยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าวแต่อย่างใด
อันดรี ซีบิฮา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของยูเครน กล่าวว่า การโจมตีดังกล่าวถือเป็น "การโจมตีเสรีภาพในการเดินเรือและความมั่นคงด้านอาหารของโลกอย่างไม่เกรงกลัว"
ทั้งนี้ กองทัพเรือยูเครนเปิดเผยว่า เครื่องบินทิ้งระเบิด Tupolev Tu-22 ของรัสเซียได้ยิงขีปนาวุธร่อนหลายลูกในเวลา 23.02 น. ของวันพุธ (11 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น
ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ขีปนาวุธยิงเข้าใส่เรือของพลเรือนที่กำลังขนส่งธัญพืชอยู่ในทะเล นับตั้งแต่ที่รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครนเมื่อเดือนก.พ. 2565 โดยที่ผ่านมานั้น เรือที่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีของรัสเซียจะเป็นเรือที่จอดอยู่ที่ท่าเรือของยูเครน