ฟิลิปปินส์ยืนยันว่าจะยังคงส่งเรือไปประจำการบริเวณสันดอนซาบินา (Sabina Shoal) ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้ต่อไป หลังจากเรือฟิลิปปินส์ลำหนึ่งกลับมาเทียบท่าอีกครั้ง หลังถูกส่งไปประจำการบริเวณดังกล่าวมานาน 5 เดือน
เจย์ ทาร์ริเอลา โฆษกของหน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ กล่าวในการแถลงข่าววันนี้ (16 ก.ย.) ว่า "เราจะยังคงรักษาสถานะเหนือน่านน้ำเหล่านี้ต่อไป" โดยการแถลงข่าวมีขึ้นหลังจากที่หน่วยยามชายฝั่งฟิลิปปินส์ได้ส่งเรือที่มีชื่อว่า เทเรซา แม็กบานัว (Teresa Magbanua) ไปประจำการที่บริเวณสันดอนซาบินาเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อจับตาความเคลื่อนไหวของจีนซึ่งฟิลิปปินส์มองว่าเป็นกิจกรรมการอ้างอธิปไตย และเรือลำดังกล่าวได้กลับมาเทียบท่าที่ฟิลิปปินส์แล้วเมื่อวันอาทิตย์ (15 ก.ย.)
โฆษกกล่าวว่า การกลับมาเทียบท่าอีกครั้งของเรือลำนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการที่จีนเรียกร้องให้ฟิลิปปินส์ถอนการประจำการเรือในน่านน้ำที่เป็นข้อพิพาท แต่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เรือได้รับการซ่อมบำรุง และเพื่อให้ลูกเรือตรวจสุขภาพหรือได้รับการดูแลรักษาที่จำเป็น โดยแนวปะการังซาบีนา ซึ่งจีนเรียกว่า แนวปะการังเซียนบิน (Xianbin Reef) และฟิลิปปินส์เรียกว่า แนวปะการังเอสโคดา (Escoda Shoal) ตั้งอยู่ทางตะวันตกของจังหวัดปาลาวันของฟิลิปปินส์ ภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศ
"ไม่เกี่ยวว่าเรือลำใหญ่แค่ไหน หรือมีเรือกี่ลำ เป้าหมายหลักและความมุ่งมั่นของหน่วยยามชายฝั่งฟิลิปปินส์คือ การสร้างความมั่นใจว่าจะมีเจ้าหน้าที่หน่วยยามชายฝั่งประจำการอยู่ตลอดเวลา" สำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานถ้อยแถลงของทาร์ริเอลา
ทั้งนี้ จีนอ้างอธิปไตยเหนือพื้นที่ส่วนใหญ่ของทะเลจีนใต้ ซึ่งทับซ้อนกับเขตทางทะเลของบรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม จนกระทั่งในปี 2559 อนุญาโตตุลาการกรุงเฮกได้ตัดสินให้การอ้างสิทธิ์ที่กว้างขวางและดำเนินมาอย่างยาวนานของจีนเป็นโมฆะ แต่ทางการจีนไม่ยอมรับคำตัดสินดังกล่าว