สมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) มีแนวโน้มว่าจะลงมติให้อิสราเอล "ยุติการตั้งถิ่นฐานโดยมิชอบด้วยกฎหมายในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง" ภายในเวลา 12 เดือน
การลงมติดังกล่าวจะถือเป็นการโดดเดี่ยวอิสราเอลก่อนที่บรรดาผู้นำโลกจะเดินทางไปรวมตัวกันที่นิวยอร์กเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของสมัชชาสหประชาชาติ โดยนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล และประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ของปาเลสไตน์ มีกำหนดกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 193 ชาติ ในวันเดียวกัน นั่นคือวันที่ 26 ก.ย.
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เป้าหมายของร่างมติที่เขียนโดยทางการปาเลสไตน์คือ การปฏิบัติตามความเห็นแนะนำ (advisory opinion) ของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก เมื่อเดือนก.ค. ซึ่งระบุว่า การที่อิสราเอลเข้ายึดครองและตั้งถิ่นฐานในดินแดนปาเลสไตน์ขัดต่อกฎหมาย และต้องย้ายถิ่นฐานออกไป
ความเห็นแนะนำของศาลโลกระบุว่าควรดำเนินการ "โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" แต่ร่างมติร่างแรกกำหนดกรอบเวลาดำเนินการไว้ที่ 6 เดือน ส่วนร่างมติล่าสุดขยายเวลาออกไปอีกเป็น 12 เดือน
ร่างมติดังกล่าวจะมีการลงมติในเวลา 11.00 น. ของวันนี้ (18 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยต้องได้รับเสียงสนับสนุน 2 ใน 3 ของชาติที่เข้าร่วมการประชุมและออกเสียง โดยไม่นับชาติที่งดออกเสียง
ทั้งนี้ ความเห็นแนะนำของศาลโลกไม่มีผลผูกพันแต่มีน้ำหนักภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ และอาจทำให้การสนับสนุนอิสราเอลลดน้อยลง ขณะที่มติของสมัชชาสหประชาชาติก็ไม่ผลผูกพันแต่มีน้ำหนักทางการเมือง