พลโทเฮอร์ซี ฮาเลวี เสนาธิการกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) เปิดเผยในวันอาทิตย์ (22 ก.ย.) ว่า กองกำลังอิสราเอล "กำลังวางแผนอย่างรอบคอบสำหรับปฏิบัติการในอีกไม่กี่วันข้างหน้า" และการโจมตีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์จะรุนแรงมากขึ้น
พลโทฮาเลวีกล่าวผ่านทางโทรทัศน์ว่า กองกำลังอิสราเอลสังหารนักรบฮิซบอลเลาะห์ไปแล้วกว่า 600 ราย "รวมถึงผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์หลายสิบคน" นับตั้งแต่ความขัดแย้งในฉนวนกาซาเริ่มต้นขึ้นเมื่อปีที่แล้ว และได้โจมตีเป้าหมาย "หลายร้อยแห่ง" ในเลบานอนเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งส่งผลให้ขีดความสามารถในการโจมตีและการสู้รบของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์อ่อนแอลง
"กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ต้องชดใช้อย่างสาสมมากขึ้นเรื่อย ๆ และการโจมตีของเราจะทวีความรุนแรงขึ้น" พลโทฮาเลวีกล่าว "ขีดความสามารถของเรายังมีอีกมากมาย และเรามีความพร้อมสูงมาก ทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ"
ขณะเดียวกัน พลโทฮาเลวีระบุว่า การโจมตีทางอากาศใส่อาคารแห่งหนึ่งในย่านชานเมืองตอนใต้ของกรุงเบรุตเมื่อวันศุกร์ (20 ก.ย.) ได้ทำลายเครือข่ายกองบัญชาการของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
เขาอ้างว่าเครื่องบินรบอิสราเอลทิ้งระเบิดใส่อาคารดังกล่าว ขณะที่กองบัญชาการของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์กำลังวางแผนโจมตีทางตอนเหนือของอิสราเอล โดยมีเป้าหมายเพื่อสังหารพลเรือนและลักพาตัวทหาร
"เราจะดูแลความปลอดภัยของชาวอิสราเอลพลัดถิ่นที่กำลังเดินทางกลับบ้านตามแนวชายแดน และหากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้ ก็จะต้องถูกโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่าจนกว่าจะเข้าใจ" เขากล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ความตึงเครียดบริเวณชายแดนอิสราเอล-เลบานอนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังเกิดเหตุระเบิดอุปกรณ์สื่อสารทั่วเลบานอนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 37 ราย และบาดเจ็บอีก 2,931 ราย นอกจากนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อิสราเอลยังโจมตีอาคารแห่งหนึ่งในเขตจามูส ย่านชานเมืองตอนใต้ของกรุงเบรุต ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 45 ราย และบาดเจ็บอีกหลายสิบราย
กองทัพอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ได้ยิงตอบโต้กันข้ามพรมแดนอิสราเอล-เลบานอน นับตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. 2566 ก่อให้เกิดความกังวลว่าการเผชิญหน้ากันที่กินเวลานานเกือบหนึ่งปีอาจทวีความรุนแรงจนกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบในที่สุด