สตีเวน เฉิง โฆษกทีมหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ได้เตือนทรัมป์เกี่ยวกับ "ภัยคุกคามที่แท้จริงและเฉพาะเจาะจง" จากอิหร่านที่ต้องการลอบสังหารทรัมป์ ซึ่งเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันในการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
เฉิงระบุในแถลงการณ์วานนี้ (24 ก.ย.) ว่า "ประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับฟังการบรรยายสรุปในวันนี้จากสำนักงานผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติเกี่ยวกับภัยคุกคามที่แท้จริงและเฉพาะเจาะจงจากอิหร่านที่มีเป้าหมายลอบสังหารเขา เพื่อทำลายความมั่นคงและก่อให้เกิดความวุ่นวายในสหรัฐฯ"
"เจ้าหน้าที่ข่าวกรองระบุว่า การโจมตีอย่างต่อเนื่องและมีการประสานงานกันเหล่านี้ได้เพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายจากทุกหน่วยงานกำลังดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับการปกป้อง และการเลือกตั้งปราศจากการแทรกแซง" แถลงการณ์กล่าว
ทีมรณรงค์หาเสียงของทรัมป์ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำเตือนดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่อิหร่านกำลังถูกกดดันจากนานาชาติมากขึ้นให้ลดความตึงเครียดที่พุ่งสูงขึ้นในเลบานอน หลังอิสราเอลทิ้งระเบิดโจมตีเป้าหมายของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน
ก่อนหน้านี้ อิหร่านได้เคยออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาพยายามลอบสังหารทรัมป์ เพียงไม่นานหลังจากที่มือปืนรายหนึ่งเปิดฉากยิงในงานหาเสียงของทรัมป์ที่รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และทรัมป์ได้รับบาดเจ็บ
สำนักข่าวเอเอฟพี (AFP) รายงานว่า ไม่กี่วันหลังจากมีความพยายามลอบสังหารทรัมป์เมื่อวันที่ 13 ก.ค. สื่อของสหรัฐฯ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้รับข่าวกรองเกี่ยวกับแผนการของอิหร่านในการลอบสังหารทรัมป์ ส่งผลให้มีการเพิ่มมาตรการคุ้มกันให้กับทรัมป์ ในขณะที่อิหร่านปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นข้อกล่าวหาที่มุ่งร้าย
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังได้กล่าวหาอิหร่านว่าแฮกข้อมูลที่มุ่งเป้าไปที่การรณรงค์หาเสียงของทรัมป์ โดยระบุว่า อิหร่านกำลังพยายามที่จะแทรกแซงการเลือกของสหรัฐฯ ในปีนี้