รัฐบาลญี่ปุ่นแสดงความกังวลอย่างมากในวันนี้ (1 ต.ค.) เกี่ยวกับการที่อิสราเอลได้เริ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินเพื่อโจมตีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ทางตอนใต้ของประเทศเลบานอน โดยเรียกร้องให้ใช้ความยับยั้งชั่งใจให้มากที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์นั้นได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน
โยชิมาสะ ฮายาชิ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้เรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันที โดยเน้นย้ำว่า จะต้องดำเนินมาตรการทั้งหมดที่เป็นไปได้เพื่อป้องกันการสูญเสียพลเรือน และเรียกร้องให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องหาทางออกด้วยวิธีการทางการทูต
ฮายาชิกล่าวในการแถลงข่าวว่า ญี่ปุ่นกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรับประกันความปลอดภัยให้กับพลเมืองญี่ปุ่นประมาณ 50 คนในเลบานอน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในช่วงเช้าวันนี้ กองทัพอิสราเอลประกาศว่าได้เริ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินอย่างจำกัดในการโจมตีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งถือเป็นการบุกโจมตีเลบานอนในภาคพื้นดินเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2549
การบุกโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่เกิดเหตุระเบิดเพจเจอร์และระเบิดวิทยุสื่อสารที่มุ่งเป้าไปที่สมาชิกของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์, การโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ของอิสราเอลต่อสำนักงานใหญ่ของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในกรุงเบรุต และการสังหาร ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์
สถานการณ์ล่าสุดดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการขยายตัวของความขัดแย้งในตะวันออกกลางซึ่งเกิดจากการโจมตีอย่างไม่คาดคิดของกลุ่มฮามาสในภาคใต้ของอิสราเอลเมื่อเกือบ 1 ปีมาแล้ว
ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นในตะวันออกกลางนั้น กระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นได้สั่งการเมื่อวันศุกร์ (27 ก.ย.) ให้กองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศส่งเครื่องบินขนส่ง C2 จำนวน 2 ลำไปยังจอร์แดนและกรีซ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับความเป็นไปได้ที่จะมีการอพยพพลเมืองญี่ปุ่นในเลบานอน