นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) ได้กล่าวประณามอิหร่านอย่างชัดเจนในวันนี้ต่อการที่ยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอล หลังจากที่ได้สร้างความไม่พอใจต่ออิสราเอลก่อนหน้านี้ เนื่องจากเขาไม่ได้ระบุถึงอิหร่านในการกล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อวานนี้
"เช่นเดียวกับที่ผมได้กล่าวถึงการโจมตีของอิหร่านในเดือนเม.ย. และสิ่งนี้ควรจะประจักษ์ชัดในบริบทของการประณามซึ่งผมได้แสดงออกเมื่อวานนี้ ผมจึงขอประณามอย่างรุนแรงอีกครั้งต่อการที่อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธครั้งใหญ่โจมตีอิสราเอลเมื่อวานนี้"
"การโจมตีเหล่านี้กลับไม่ได้ช่วยสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ หรือลดความทุกข์ยากของพวกเขา" นายกูเตอร์เรสกล่าวต่อที่ประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ในวันนี้
ก่อนหน้านี้ ทางการอิสราเอลประกาศในวันนี้ว่า นายกูเตอร์เรสถือเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา ทำให้เขาถูกห้ามเดินทางเข้าอิสราเอล เนื่องจากไม่ยอมประณามอิหร่านต่อการยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอล
"ผู้ใดก็ตามที่ไม่ยอมประณามอย่างชัดเจนต่อการโจมตีที่ชั่วร้ายของอิหร่านที่มีต่ออิสราเอลอย่างที่ประเทศอื่นๆ เกือบทั้งโลกได้กระทำ ผู้นั้นก็ไม่สมควรเหยียบบนแผ่นดินอิสราเอล"
"อิสราเอลจะยังคงปกป้องประชาชนของตน และยึดมั่นในเกียรติภูมิของชาติ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส" นายอิสราเอล แคตส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล กล่าว
ทั้งนี้ อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธพิสัยไกลแบบทิ้งตัว (ballistic missile) มากกว่า 180 ลูกโจมตีอิสราเอลเมื่อคืนนี้ โดยอ้างว่าเพื่อตอบโต้ต่อการที่อิสราเอลสังหารประชาชนในฉนวนกาซา รวมทั้งผู้นำของกลุ่มฮามาสและฮิซบอลเลาะห์
อย่างไรก็ดี ขีปนาวุธส่วนใหญ่ได้ถูกอิสราเอลสกัดได้กลางอากาศ แม้มีบางส่วนสามารถฝ่าระบบป้องกันของอิสราเอล แต่ก็ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
ด้านนายกูเตอร์เรสกล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อวานนี้ โดยออกแถลงการณ์สั้นๆ ระบุแต่เพียง "การโจมตีครั้งล่าสุดในตะวันออกกลาง" โดยไม่มีการกล่าวถึงอิหร่านแต่อย่างใด