นักศึกษาหลายแสนคนในอาร์เจนตินาออกมาเดินขบวนประท้วงตามท้องถนนเมื่อวานนี้ (2 ต.ค.) เนื่องจากไม่พอใจที่รัฐบาลเสรีนิยมของประธานาธิบดีฆาเบียร์ มิเล ปรับลดค่าใช้จ่ายของมหาวิทยาลัยรัฐหลายแห่งลงอย่างมาก ในช่วงเวลาที่อาร์เจนตินาประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจที่เงินเฟ้อพุ่งสูงเกือบ 240% และประชากรกว่าครึ่งของประเทศยากจน
การประท้วงจัดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลขู่ว่าจะวีโตกฎหมายฉบับหนึ่งที่ได้รับอนุมัติจากสภาคองเกรสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าด้วยการรับประกันเงินสนับสนุนมหาวิทยาลัย
ริคาร์โด เกลปิ อธิการบดีมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ระบุในแถลงการณ์ว่า "รัฐบาลมีแผนการที่จะค่อย ๆ ทำลายการศึกษาของรัฐอย่างเป็นระบบ" พร้อมกล่าวต่อไปว่า คณะบริหารของมิเลไม่สนใจเรื่องการศึกษา และงบประมาณที่ถูกตัดไปนั้นเป็นเพียงเศษเสิ้ยวของผลผลิตทางเศรษฐกิจของประเทศ
ด้าน ปิเอรา เฟอร์นานเดซ หัวหน้าสหพันธ์มหาวิทยาลัย FUA ของอาร์เจนตินา กล่าวกับฝูงชนว่า มหาวิทยาลัยของรัฐกำลัง "ต่อสู้เพื่อความอยู่รอด" พร้อมทั้งเสริมว่า งบรายจ่ายด้านการศึกษาและวิทยาศาสตร์เป็นการลงทุน ไม่ใช่ค่าใช้จ่าย
อย่างไรก็ตาม หลังการประท้วงดังกล่าวเปิดฉากขึ้น รัฐบาลของมิเลกลับยิ่งเดินหน้าต่อ ด้วยการประกาศว่าจะโหวตคว่ำร่างกฎหมายที่สนับสนุนการใช้จ่ายที่ "ไร้ความรับผิดชอบ" ของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ รวมไปถึงข้อเสนอที่ "เป็นภัยต่อดุลการคลัง"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลของมิเลพยายามหาความชอบธรรมให้กับการตัดงบประมาณ โดยระบุว่า มหาวิทยาลัยของรัฐเป็นสถานที่ปลูกฝัง "ลัทธิสังคมนิยม" แม้ว่าสถาบันเหล่านี้มีชื่อเสียงอย่างมากในหมู่ชาวอาร์เจนตินาก็ตาม