นีลเส็น (Nielsen) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยข้อมูลระดับโลก เปิดเผยว่า จำนวนผู้ชมการประชันวิสัยทัศน์หรือดีเบตระหว่างทิม วอลซ์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต กับเจดี แวนซ์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน ทางเครือข่ายสถานีโทรทัศน์รายใหญ่ 15 แห่งนั้น อยู่ที่ 43.1 ล้านคน ซึ่งต่ำกว่าจำนวนผู้ชมการดีเบตรองประธานาธิบดีในปี 2563
การดีเบตระหว่างคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีซึ่งมีขึ้นเมื่อวันอังคาร (1 ต.ค.) นั้น จัดโดยสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส (CBS) ซึ่งเป็นสื่อในเครือบริษัทพาราเมาท์ โกลบอล (Paramount Global) โดยผู้ชมการดีเบตผ่านทาง CBS มีเกือบ 9.6 ล้านคน ซึ่งมากกว่าสถานีโทรทัศน์อื่น ๆ ส่วนฟ็อกซ์นิวส์ (Fox News) ครองอันดับหนึ่งในกลุ่มช่องเคเบิลด้วยจำนวนผู้ชมกว่า 7.9 ล้านคน
สำหรับการดีเบตชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2563 ระหว่างคามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต กับไมค์ เพนซ์ จากพรรครีพับลิกันนั้น มีผู้เช้าชมจำนวน 57.9 ล้านคนทางเครือข่ายสถานีโทรทัศน์ 18 แห่ง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า แวนซ์ วุฒิสมาชิกจากรัฐโอไฮโอสังกัดพรรครีพับลิกัน และวอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตาจากพรรคเดโมแครต ประชันวิสัยทัศน์กันในหลายประเด็น ตั้งแต่ประเด็นการอพยพและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไปจนถึงการทำแท้งและเหตุการณ์บุกรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 โดยผลสำรวจเบื้องต้นบ่งชี้ว่าไม่มีใครชนะขาดลอยในการดีเบตครั้งนี้ แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญบางรายกล่าวว่าแวนซ์ทำผลงานการดีเบตได้ดีกว่าก็ตาม
ทั้งนี้ คาดว่าการดีเบตระหว่างวอลซ์กับแวนซ์ในครั้งนี้จะเป็นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ก่อนที่การเลือกตั้งจะมีขึ้นในวันที่ 5 พ.ย.
ส่วนการดีเบตของสองผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ระหว่างคามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต กับโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ก.ย.นั้น สามารถดึงดูดผู้ชมได้มากถึง 67.1 ล้านคนทางเครือข่ายสถานีโทรทัศน์ 17 แห่งของสหรัฐฯ ซึ่งมากกว่าจำนวนผู้ชมการดีเบตระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน กับทรัมป์ ซึ่งมีขึ้นในเดือนมิ.ย.