กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) วางแผนจะใช้งบประมาณราว 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อบำรุงรักษาเรือรบในทะเลแดง และเติมคลังขีปนาวุธที่เพิ่งใช้ไปในการต่อต้านการโจมตีจากอิหร่านและพันธมิตรอย่างกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เอกสารงบประมาณที่ยื่นต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ก.ย. เผยให้เห็นค่าใช้จ่ายในการรักษาปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมถึงการป้องกันโดรนและขีปนาวุธที่อิหร่านและกลุ่มฮูตีในเยเมนปล่อยออกมา
เอกสารดังกล่าวระบุว่า เงินราว 190 ล้านดอลลาร์จะถูกใช้เพื่อทดแทนขีปนาวุธของบริษัทอาร์ทีเอ็กซ์ คอร์ป (RTX Corp.) และเงินอีก 8.5 ล้านดอลลาร์จะถูกใช้เพื่อซื้อขีปนาวุธติดตามคลื่นความร้อน
เอกสารดังกล่าวยังระบุด้วยว่า เพนตากอนของบ 276 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้อขีปนาวุธเอสเอ็ม-6 (SM-6), 57.3 ล้านดอลลาร์สำหรับขีปนาวุธร่อนโทมาฮอว์ก (Tomahawk) และ 6.7 ล้านดอลลาร์สำหรับขีปนาวุธเอนฮานซ์ ซี สแปร์โรว์ (Enhanced Sea Sparrow) ขีปนาวุธทั้งหมดนี้ผลิตโดยบริษัทอาร์ทีเอ็กซ์
นอกจากนี้ เพนตากอนจะใช้งบประมาณ 25 ล้านดอลลาร์สำหรับชุดอุปกรณ์นำวิถีด้วยจีพีเอส (GPS) ที่ผลิตโดยบริษัทโบอิ้ง (Boeing), 7.4 ล้านดอลลาร์สำหรับระเบิดขนาดเล็ก และอีก 25 ล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นการผลิตขีปนาวุธมาตรฐาน เพื่อช่วยตอบสนองต่อ "สถานการณ์ในอิสราเอล"