ทางการออสเตรเลียเปิดเผยในวันนี้ (4 ต.ค.) ว่า ทางการจะระดมกำลังตำรวจและคุมเข้มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น ก่อนการชุมนุมสนับสนุนชาวปาเลสไตน์จะเริ่มต้นขึ้นในซิดนีย์และเมลเบิร์นในวันที่ 6 ต.ค. พร้อมเตือนกลุ่มผู้ประท้วงว่าจะต้องไม่ก่อให้เกิดความรุนแรง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาสจุดชนวนให้ทั้งชาวยิวและชาวปาเลสไตน์ทั่วโลกลุกฮือขึ้นประท้วง ซึ่งรวมถึงในออสเตรเลียด้วย ขณะที่รัฐบาลออสเตรเลียมีความกังวลว่า การประท้วงอาจสุมไฟความตึงเครียดในชุมชนและบั่นทอนความสมัครสมานสามัคคีของสังคม
ในซิดนีย์ กลุ่มปฏิบัติการปาเลสไตน์ (Palestine Action Group) ได้วางแผนจะจัดการเดินขบวนประท้วงในวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งเป็นวันครบรอบ 1 ปีที่กลุ่มฮามาสดำเนินปฏิบัติการที่นองเลือดในที่สุดในประวัติศาสตร์อิสราเอล ซึ่งเป็นชนวนให้เกิดสงครามในฉนวนกาซา
อย่างไรก็ดี ทางกลุ่มจะจัดการชุมนุมในวันอาทิตย์ที่ 6 ต.ค. แทน หลังจากบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรื่องการเปลี่ยนสถานที่และเส้นทาง และจะไม่แสดงธง รูปภาพ หรือสัญลักษณ์ขององค์กรต้องห้าม
ด้านนายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี ของออสเตรเลียกล่าวว่า เขามองว่าวันที่ 7 ต.ค.เป็นวันที่สำคัญ และเสริมว่า ชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่ไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งในส่วนอื่น ๆ ของโลกเกิดขึ้นในประเทศ
ทั้งนี้ ออสเตรเลียเริ่มมีเหตุการณ์ต่อต้านชาวยิวและต่อต้านศาสนาอิสลามเพิ่มมากขึ้น นับตั้งแต่ที่การสู้รบระหว่างอิสราเอล-กาซาเริ่มต้นขึ้น และเมื่อปีที่แล้ว ออสเตรเลียได้อนุมัติกฎหมายห้ามแสดงสัญลักษณ์ของกลุ่มก่อการร้ายในที่สาธารณะ
อย่างไรก็ตาม การประท้วงที่เมลเบิร์นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ประท้วงบางส่วนแสดงธงที่มีสัญลักษณ์ของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์และภาพถ่ายของนายซัยยิด ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่ม ซึ่งเสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอล ส่งผลให้ทางการเริ่มเปิดฉากดำเนินการสอบสวนขึ้น