ประธานาธิบดีโมฮาเหม็ด มูอิซซู แห่งมัลดีฟส์ มีกำหนดเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 5 วัน โดยจะพบปะหารือกับนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียในวันนี้ (7 ต.ค.) ท่ามกลางความหวังว่าอินเดียจะยังคงให้การสนับสนุนมัลดีฟส์ที่กำลังฟื้นตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา มีความวิตกกังวลเพิ่มสูงขึ้นว่ามัลดีฟส์ซึ่งกำลังขาดแคลนเงินสด อาจกลายเป็นประเทศแรกที่ผิดนัดชำระหนี้ตราสารหนี้อิสลาม อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เริ่มคลี่คลายหลังจากที่จีนและอินเดียซึ่งต่างต้องการมีอิทธิพลเหนือมัลดีฟส์ ได้ยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือทางการเงินรอบใหม่
เมื่อเดือนที่ผ่านมา อินเดียได้ยื่นมือช่วยเหลือทางการเงินเร่งด่วนแก่มัลดีฟส์ด้วยการซื้อพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์ ตามคำร้องขอของรัฐบาลปธน.มูอิซซู โดยเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่จีนตกลงจะกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนกับประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดียแห่งนี้
สำหรับประเด็นหลักในการหารือระหว่างปธน.มูอิซซูและนายกฯ โมดีในวันนี้ คาดว่าจะเน้นเรื่องความช่วยเหลือทางการเงินจากอินเดีย เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจมัลดีฟส์ที่กำลังซบเซา
ก่อนการเยือนครั้งนี้ ปธน.มูอิซซูสัมภาษณ์กับบีบีซี (BBC) ว่า "อินเดียเข้าใจสถานการณ์ทางการคลังของเราเป็นอย่างดี และในฐานะหนึ่งในพันธมิตรด้านการพัฒนาที่สำคัญที่สุดของเรา อินเดียพร้อมเสมอที่จะช่วยแบ่งเบาภาระ หาทางออกที่ดีกว่า และร่วมแก้ไขปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่"
ตามข้อมูลของธนาคารโลก จีนและอินเดียเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของมัลดีฟส์ โดยมัลดีฟส์ได้กู้ยืมเงินจากจีน 1.37 พันล้านดอลลาร์ และจากอินเดีย 124 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ความกังวลเรื่องการผิดนัดชำระหนี้ของมัลดีฟส์เกิดขึ้นหลังจากมัลดีฟส์เผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศ
ความสัมพันธ์ระหว่างมัลดีฟส์กับอินเดียเคยสั่นคลอนหลังจากที่มูอิซซูชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนเม.ย. และเรียกร้องให้อินเดียถอนกำลังทหาร 80 นายที่ประจำการในมัลดีฟส์ออกไป โดยให้แทนที่ด้วยพลเรือน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย "ไม่เอาอินเดีย" (India out) ของเขา อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น หลังจากมีการเจรจาทางการทูตและการประชุมหารือกันหลายครั้งนับแต่นั้นมา
ปธน.มูอิซซูให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไทมส์ ออฟ อินเดีย (Times of India) ฉบับวันจันทร์ว่า "พัฒนาการล่าสุดแสดงให้เห็นถึงทิศทางที่ดีขึ้นในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และเรามุ่งมั่นที่จะสร้างความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนที่ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ต่อไป"