กองทัพยูเครนเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ (7 ต.ค.) ว่า กองทัพรัสเซียได้รุกเข้าสู่เขตชานเมืองของทอเรตสก์ (Toretsk) เมืองหน้าด่านสำคัญทางตะวันออกของยูเครน ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่กองทัพรัสเซียได้บุกยึดเมืองวูห์เลดาร์ (Vuhledar) ที่อยู่ใกล้กัน
"สถานการณ์ยังไม่นิ่ง มีการสู้รบเกิดขึ้นทุกทางเข้าเมือง" อนาสตาเซีย โบบอฟนิโควา โฆษกของกลุ่มปฏิบัติการระดับยุทธวิธี "ลูฮันสก์" (Operational Tactical Group "Luhansk") กล่าวกับสถานีวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติของยูเครน "รัสเซียได้เข้าสู่เขตชานเมืองฝั่งตะวันออกของเมืองแล้ว"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ยูเครนกำลังสูญเสียดินแดนมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเหตุนี้ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี จึงสั่งการให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงดำเนินการ "ทุกอย่างที่สามารถทำได้" เพื่อสกัดการรุกคืบของรัสเซียตามเมืองหน้าด่าน
สำหรับยูเครน เมืองทอเรตสก์เป็นเมืองหน้าด่านมานาน 10 ปีแล้ว เนื่องจากอยู่ใกล้กับดินแดนของยูเครนที่ถูกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนเข้ายึดครองในปี 2557 นับตั้งแต่นั้นมา เมืองทอเรตสก์ก็กลายเป็นป้อมปราการหลักของยูเครน
สำหรับรัสเซีย การยึดเมืองทอเรตสก์จะช่วยให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เข้าใกล้เป้าหมายในการยึดครองภูมิภาคดอนบาสมากขึ้น