นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ (9 ต.ค.) และเตรียมจัดการเลือกตั้งในวันที่ 27 ต.ค. เพื่อยืนยันถึงการเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและได้รับอาณัติจากประชาชนในการบริหารประเทศ หลังจากที่เขาเพิ่งก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาลได้เพียง 9 วัน
ทั้งนี้ อิชิบะเพิ่งชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) และรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการในการประชุมสภานิติบัญญัติสมัยพิเศษเมื่อวันที่ 1 ต.ค. โดยพรรค LDP และพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคโคเม (Komeito) ครองเสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา
การก้าวขึ้นเป็นผู้นำของอิชิบะเกิดขึ้นหลังจากที่ฟูมิโอะ คิชิดะ ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น พร้อมถอนตัวไม่ลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค LDP อีกสมัย เพื่อหลีกทางให้ผู้นำคนใหม่ได้เข้ามาพิสูจน์ฝีมือบริหารพรรค หลังจากที่พรรคต้องเผชิญข่าวอื้อฉาวเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันจนส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมของพรรคในหมู่ชาวญี่ปุ่น
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า การจัดการเลือกตั้งเร็วสะท้อนถึงความพยายามของอิชิบะที่จะรักษาเสียงข้างมากของพรรค LDP ในสภาผู้แทนราษฎร ในขณะที่เขายังคงมีความสดใหม่ และก่อนที่บรรยากาศช่วงฮันนีมูนพีเรียดจะจางหายไป
อิชิบะประกาศแผนการยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ตั้งแต่ก่อนที่เขาจะชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและได้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยเขาเคยกล่าวก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการเคาะวันเลือกตั้งว่า "ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี"
อย่างไรก็ดี ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า อิชิบะให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งมากกว่าการผลักดันนโยบายต่าง ๆ ทั้งยังเปิดโอกาสให้โต้แย้งน้อยมาก
สำหรับการหาเสียงเลือกตั้งจะเริ่มในวันอังคารหน้า (15 ต.ค.) โดยอิชิบะและคณะรัฐมนตรีจะรักษาการไปจนกว่าจะชนะการเลือกตั้งและได้รับการแต่งตั้งกลับเข้ามาบริหารประเทศอีกครั้ง
การเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้จะเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับพรรค LDP ซึ่งสูญเสียศรัทธาในหมู่ประชาชนชาวญี่ปุ่น เนื่องจากเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการได้มาซึ่งเงินทุนของพรรค รวมทั้งความเชื่อมั่นในตัวอิชิบะ ในฐานะนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคคนใหม่ที่จะแก้ไขปัญหานี้