อิสราเอลได้สั่งให้ชาวเลบานอนอพยพออกจากเมืองต่างๆ ทางภาคใต้ของประเทศ และได้โจมตีพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (12 ต.ค.) ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพของสหประชาชาติ (UN) ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน
กระทรวงสาธารณสุขเลบานอนรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ราย และบาดเจ็บ 37 รายจากการโจมตีใน 3 เมืองของเลบานอนเมื่อวานนี้ โดยหนึ่งในเมืองที่ถูกโจมตีก็คือเมืองเดียร์บิลลา ทางตอนเหนือ ซึ่งไม่เคยถูกโจมตีมาก่อน
กองทัพอิสราเอลระบุว่า กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้ยิงขีปนาวุธเกือบ 320 ลูกจากเลบานอนข้ามพรมแดนอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมใดๆ ส่งผลให้ทางอิสราเอลต้องสั่งปิดพื้นที่รอบเมืองบางแห่งทางตอนเหนือของประเทศ
นอกจากนี้ กองทัพอิสราเอลยังได้สั่งให้ประชาชนในหมู่บ้านทางตอนใต้ของเลบานอน 23 แห่งอพยพไปยังพื้นที่ทางตอนเหนือของแม่น้ำอวาลี ซึ่งไหลจากหุบเขาเบกากตะวันตกสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แม้ว่าบางแห่งจะไม่มีผู้คนอาศัยอยู่แล้วก็ตาม
ทางกองทัพอิสราเอลชี้แจงว่า การอพยพนั้นเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความปลอดภัยของประชาชน เนื่องจากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์มีการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้น และกล่าวหาว่ากลุ่มนี้ใช้สถานที่ต่างๆ เพื่อซ่อนอาวุธและทำการโจมตีอิสราเอล
อย่างไรก็ตาม กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่ามีการซ่อนอาวุธในหมู่พลเรือน