การทะยานขึ้นของราคาบิตคอยน์กำลังได้รับความสนใจ เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนมองว่า ราคาที่พุ่งขึ้นนั้นเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ตลาดคาดการณ์ว่าอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกันซึ่งสนับสนุนเงินคริปโทเคอร์เรนซีนั้นจะคว้าชัยในศึกเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นราว 13% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา แซงหน้าดัชนีหุ้นโลกและทองคำ โดยมหาเศรษฐี สแตน ดรักเคนมิลเลอร์ ระบุว่า สกุลเงินดิจิทัลเป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้ว่า ตลาดคาดการณ์ว่าอดีตปธน.ทรัมป์จะชนะการเลือกตั้ง
เมลเทม เดมิเรอร์ ผู้ก่อตั้งและหุ้นส่วนของครูซิเบิล แคปิทัล (Crucible Capital) กล่าวกับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์ก (Bloomberg Television) ว่า "การที่คริปโทฯ กลายเป็นประเด็นสำคัญในการเลือกตั้งนั้น ทำให้บิตคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทอื่น ๆ ได้รับความสนใจอย่างมาก ซึ่งความสนใจดังกล่าวได้เปลี่ยนไปเป็นความเชื่อมั่น และอย่างที่เราทราบ ความเชื่อมั่นก็แปรเปลี่ยนไปเป็นกระแส"
อดีตปธน.ทรัมป์ให้คำมั่นว่า เขาจะทำให้สหรัฐฯ กลายเป็นศูนย์กลางของคริปโทเคอร์เรนซีโลก ขณะที่เขากำลังแข่งขันอย่างสูสีกับรองปธน.คามาลา แฮร์ริสในศึกเลือกตั้งวันที่ 5 พ.ย.นี้
การสนับสนุนของทรัมป์ต่ออุตสาหกรรมคริปโทฯ ทำให้บิตคอยน์ถูกมองว่าเป็นการลงทุนที่เรียกว่า "Trump trade" ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มเดิมพันที่คาดว่า ทรัมป์จะกลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง
ดรักเคนมิลเลอร์กล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ว่า ตลาดในช่วง 12 วันที่ผ่านมาดูมีความเชื่อมั่นอย่างมากว่าทรัมป์จะชนะเลือกตั้ง โดยจะเห็นได้จากหุ้นกลุ่มธนาคารและสกุลเงินคริปโทฯ
กระแสเงินไหลเข้าสุทธิสู่กลุ่ม ETF บิตคอยน์ของสหรัฐฯ จำนวน 12 แห่งพุ่งสูงถึง 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐนับตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ราคาบิตคอยน์แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยอยู่ที่ประมาณ 67,260 ดอลลาร์สหรัฐ ณ เวลา 12.58 น. ของวันนี้ (17 ต.ค.) ในสิงคโปร์ เมื่อเทียบกับสถิติสูงสุดในเดือนมี.ค.ที่ 73,798 ดอลลาร์สหรัฐ