แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เดินทางไปยังตะวันออกกลางเมื่อวานนี้ (21 ต.ค.) เพื่อเริ่มดำเนินการผลักดันการหยุดยิงอีกครั้ง โดยมุ่งหวังที่จะฟื้นการเจรจาเพื่อยุติสงครามกาซาและคลี่คลายความขัดแย้งที่ลุกลามไปยังเลบานอน
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า บลิงเคนจะหารือกับบรรดาผู้นำในอิสราเอลและประเทศอาหรับที่อยู่ใกล้เคียงเกี่ยวกับความสำคัญของการยุติสงครามในฉนวนกาซา, แนวทางในการวางแผนหลังสงครามสำหรับดินแดนปาเลสไตน์ และแนวทางการบรรลุข้อตกลงทางการทูตต่อความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
การเดินทางของบลิงเคนไปยังภูมิภาคนี้ถือเป็นครั้งที่ 11 ของเขา นับตั้งแต่อิสราเอลถูกโจมตีโดยกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 ซึ่งจุดชนวนให้เกิดสงครามกาซา และการเดินทางดังกล่าวยังเกิดขึ้นในขณะที่อิสราเอลเพิ่มปฏิบัติการทางทหารต่อกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ได้แก่ กลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวานนี้ (21 ต.ค.) อิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศหลายครั้งในเขตชานเมืองทางใต้ของกรุงเบรุต รวมถึงการโจมตีหนึ่งครั้งใกล้กับโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยราฟิก ฮารีรี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลหลักของรัฐบาลในเมืองหลวง โดยกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 4 ราย รวมถึงเด็ก 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 24 ราย