เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับเกาหลีใต้ทวีความตึงเครียดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แฟนเคป๊อป (K-pop) ในจีนจึงแห่ไปที่ฮ่องกง เพื่อหลบเลี่ยงการแบนคอนเทนต์วัฒนธรรมเกาหลีโดยฝีมือของรัฐบาลจีน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในปีที่ผ่านมา ฮ่องกงได้จัดคอนเสิร์ตและกิจกรรมเกี่ยวกับ K-pop จำนวนมาก รวมถึงเทศกาลดนตรีใหญ่อย่างเค-คอน (K-CON) และคอนเสิร์ตของศิลปินไอดอล เช่น ชายนี (SHINee) และ เอฟ.ที. ไอส์แลนด์ (FT Island)
เมื่อช่วงต้นเดือนก.ย. แฟน K-pop หลายพันคนจากทั่วประเทศจีนได้เข้าร่วมคอนเสิร์ตของกลุ่มศิลปินซูเปอร์จูเนียร์ (Super Junior) ในฮ่องกง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรักที่มีต่อไอดอล แม้ว่าฮ่องกงจะเผชิญกับพายุหมุนเขตร้อนที่รุนแรงก็ตาม
การเผยแพร่กระแสวัฒนธรรมเกาหลีในจีนได้รับผลกระทบอย่างมากในปี 2559 เมื่อเกาหลีใต้ตัดสินใจพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD ร่วมกับสหรัฐฯ เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ โดยจีนมองว่าเป็นการท้าทายความมั่นคงของจีน
ความตึงเครียดทางการเมืองนี้ส่งผลให้เกิดการแบนความบันเทิงจากเกาหลีใต้ในจีนโดยพฤตินัย ส่งผลให้รายการโทรทัศน์และเพลงยอดนิยมจากเกาหลีใต้หายไปจากสื่อกระแสหลัก
นอกจากนี้ อนาคตของกระแสวัฒนธรรมเกาหลีในจีนเริ่มมืดมนมากขึ้นในปี 2564 หลังจีนเริ่มปราบปรามศิลปินชายที่มีลักษณะตุ้งติ้งและวัฒนธรรมการบูชาไอดอล โดยมีการแบนดาราหนุ่มหน้าหวานและจำกัดกิจกรรมของแฟนคลับ
ท่ามกลางข้อจำกัดที่เพิ่มขึ้น ฮ่องกงจึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับแฟน K-pop ชาวจีนในการสนับสนุนไอดอลที่ชื่นชอบ โดยคอนเสิร์ต K-pop ได้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสำหรับเศรษฐกิจฮ่องกงที่ชะลอตัวอีกด้วย
ทั้งนี้ คาดว่ากิจกรรม K-pop จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจฮ่องกงอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวราว 1.7 ล้านคนเข้าร่วมกิจกรรม K-pop ซึ่งจะสร้างรายได้ประมาณ 7.2 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง และเพิ่มมูลค่าให้กับเศรษฐกิจฮ่องกงประมาณ 4.3 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง