เลือกตั้งสหรัฐฯ: อดีตหัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาวชี้ ทรัมป์เข้าข่ายเผด็จการฟาสซิสต์-ชื่นชมฮิตเลอร์

ข่าวต่างประเทศ Thursday October 24, 2024 11:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

จอห์น เคลลี อดีตหัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาวให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ โดยระบุว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน มีพฤติกรรมตรงตามนิยามของผู้นำฟาสซิสต์ และ "ชอบบริหารประเทศแบบเผด็จการ"

ขณะที่เหลือเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์ก่อนจะถึงการเลือกตั้งในวันที่ 5 พ.ย. เคลลี ผู้ที่วิจารณ์ทรัมป์มาตลอดเปิดเผยกับนิวยอร์กไทมส์ว่า อดีตปธน.สหรัฐฯ รายนี้ไม่เข้าใจทั้งรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ และหลักนิติธรรมเลย

เคลลีเปิดเผยในบทสัมภาษณ์ที่ตีพิมพ์เมื่อวันอังคาร (22 ต.ค.) ว่า หากทรัมป์ได้กลับมาเป็นผู้นำทำเนียบขาวอีกครั้ง เขาจะพยายามบริหารประเทศในแบบเผด็จการ เคลลียังเล่าด้วยว่า ทรัมป์เคยบอกเขาว่า อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำนาซีเยอรมนี "ก็เคยทำอะไรดี ๆ ไว้เหมือนกัน"

อย่างไรก็ตาม ทีมงานของทรัมป์ออกมาปฏิเสธคำกล่าวอ้างนี้ทั้งหมด

เคลลีให้สัมภาษณ์กับนสพ.ว่า "เขาชอบวิธีบริหารประเทศแบบเผด็จการอย่างเห็นได้ชัด อดีตปธน.คนนี้อยู่ในกลุ่มขวาจัดอย่างชัดเจน เป็นพวกชอบเผด็จการ และยังชื่นชมคนที่เป็นเผด็จการด้วย เขาเคยพูดเองกับผม ดังนั้นผมจึงมั่นใจว่าเขาเข้าข่ายความหมายของคำว่า 'ฟาสซิสต์' อย่างไม่ต้องสงสัย"

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เคลลี อดีตนายพลนาวิกโยธินสหรัฐฯ เคยทำงานเป็นหัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาวในยุคของทรัมป์ระหว่างปี 2560-2562 โดยหลังจากลาออกจากตำแหน่ง ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ก็เริ่มร้าวฉาน และต่างก็ไม่ปิดบังความรู้สึกเกลียดชังที่มีต่อกัน

"ไอ้เคลลีมันไร้ยางอาย เป็นนายพลเลว ๆ คนหนึ่ง ตอนอยู่ทำเนียบขาวผมไม่สนใจคำแนะนำของมันอีกแล้ว และบอกให้มันไสหัวไปให้พ้น!" ทรัมป์โพสต์ข้อความดังกล่าวในทรูธโซเชียล (Truth Social) ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียของเขาเอง

ด้านสตีเวน เฉิง โฆษกทีมหาเสียงของทรัมป์ออกแถลงการณ์ว่า "เคลลีทำตัวน่าขายหน้าสุด ๆ ด้วยการเอาเรื่องโคมลอยพวกนี้มาพูด"

คามาลา แฮร์ริส รองปธน.สหรัฐฯ และแคนดิเดตจากพรรคเดโมแครตกล่าวเมื่อวันพุธ (23 ต.ค.) ว่า คำพูดที่มีการรายงานนี้สร้างความกังวลอย่างยิ่ง

"การที่โดนัลด์ ทรัมป์อ้างถึงอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้ก่อเหตุสังหารหมู่ชาวยิวกว่า 6 ล้านคนและชาวอเมริกันนับแสนชีวิต นับเป็นเรื่องที่น่าวิตกและอันตรายอย่างยิ่ง" แฮร์ริสกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่หน้าทำเนียบรองประธานาธิบดี

"หากทรัมป์ได้กลับมาดำรงตำแหน่งอีกสมัย จะไม่มีคนอย่างจอห์น เคลลี คอยยับยั้งพฤติกรรมและการกระทำของเขาอีกแล้ว" แฮร์ริสกล่าวเสริม

เคลลีเคยวิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์ผ่านสื่อมาหลายครั้งแล้ว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขาไม่ได้อยู่ในวงในของทรัมป์ จึงไม่อาจฟันธงได้ว่า หากทรัมป์ได้กลับมาเป็นผู้นำ จะบริหารประเทศอย่างไร

แฮร์ริสได้นำคำพูดของทรัมป์ในรายการฟ็อกซ์นิวส์เมื่อเดือนธ.ค.มาเน้นย้ำ โดยทรัมป์เคยประกาศว่า ถ้าชนะเลือกตั้งปี 2567 เขาจะเป็นเผด็จการ แต่เฉพาะ "วันแรก" เท่านั้น เพื่อปิดพรมแดนทางใต้ติดกับเม็กซิโกและขยายการสำรวจขุดเจาะน้ำมัน

ฝ่ายแฮร์ริสและพรรคเดโมแครตต่างเห็นพ้องว่า ทรัมป์คือภัยคุกคามต่อระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐฯ แต่ทรัมป์ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ และย้อนว่าแฮร์ริสต่างหากที่เป็นภัยต่อประชาธิปไตย

นายพลจัตวา สตีฟ แอนเดอร์สัน นายทหารเกษียณแห่งกองทัพบกสหรัฐฯ และสมาชิกพรรครีพับลิกัน ได้แสดงความผิดหวังผ่านการโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวที่จัดขึ้นโดยทีมหาเสียงของแฮร์ริส โดยระบุว่า แม้เคลลีจะวิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์ แต่กลับไม่ได้ก้าวไปถึงขั้นประกาศสนับสนุนแฮร์ริส

ด้านเคลลีได้ย้ำในการให้สัมภาษณ์กับนสพ.เดอะนิวยอร์กไทมส์ว่า ด้วยสถานะของการเป็นอดีตนายทหาร เขาจึงไม่ขอแสดงการสนับสนุนแคนดิเดตคนใดทั้งสิ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ