เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวเมื่อวานนี้ (28 ต.ค.) ว่า เขาหวังที่จะจัดทำข้อตกลงสันติภาพกับประเทศอาหรับอื่น ๆ เพิ่มเติม หลังสงครามกับกลุ่มฮามาสและฮิซบอลเลาะห์สิ้นสุดลงแล้ว
เนทันยาฮูกล่าวระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาว่า "ในอนาคต หลังจากที่ฮามาสสูญเสียการควบคุมฉนวนกาซา และฮิซบอลเลาะห์ไม่ใช่ภัยคุกคามบนพรมแดนทางเหนือของเราอีกต่อไป เรากำลังวางแผนที่จะสร้างความมั่นคงให้กับพื้นที่เหล่านี้" และเขาได้เสริมว่า "ผมต้องการสานต่อการทำงานที่ผมเริ่มไว้เมื่อไม่กี่ปีที่แล้วกับการลงนามข้อตกลงอับราฮัม และบรรลุสันติภาพกับชาติอาหรับอื่น ๆ มากขึ้น"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในปี 2563 อิสราเอลได้ลงนามข้อตกลงเพื่อสร้างความสัมพันธ์ปกติกับประเทศอาหรับ 4 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE), บาห์เรน, โมร็อกโก และซูดาน โดยได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ
ตั้งแต่นั้นมา อิสราเอลก็พยายามรวมประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะซาอุดีอาระเบียไว้ในการเจรจาสันติภาพด้วย อย่างไรก็ตาม ซาอุดีอาระเบียระบุว่าจะไม่ยอมรับอิสราเอลจนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ขึ้น
ทั้งนี้ เนทันยาฮูกล่าวว่า "ประเทศเหล่านี้ รวมทั้งประเทศอื่น ๆ ล้วนมองเห็นผลลัพธ์จากการที่เราตอบโต้ผู้ที่โจมตีเรา ... พวกเขาต้องการตะวันออกกลางที่มั่นคง ปลอดภัย และเจริญรุ่งเรืองเช่นเดียวกับเรา"