รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส แคนดิเดตจากพรรคเดโมแครตในศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ วันที่ 5 พ.ย.นี้ เตือนประชาชนหลายหมื่นคนในกรุงวอชิงตันที่มารวมตัวกันในการหาเสียงครั้งใหญ่ที่สุดของเธอว่า อดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน กำลังแสวงหาอำนาจที่ไร้การตรวจสอบ ขณะที่ศึกชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ดำเนินมาถึงสัปดาห์สุดท้าย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แฮร์ริสกล่าวในการหาเสียงเมื่อวันอังคาร (29 ต.ค.) โดยคาดว่าน่าจะมีผู้คนมารวมตัวกันราว 75,000 คนในบริเวณใกล้กับทำเนียบขาว ซึ่งเป็นจุดที่ทรัมป์ได้กล่าวปราศรัยต่อผู้สนับสนุนของเขา ก่อนที่พวกเขาจะโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564
แฮร์ริสกล่าวว่า "เรารู้ว่าทรัมป์เป็นคนยังไง" พร้อมชี้ว่าอดีตปธน.รายนี้ได้ส่ง "ฝูงชนติดอาวุธ" เข้าโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ โดยหวังจะพลิกผลการเลือกตั้งที่เขาพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งเมื่อปี 2563
แฮร์ริสจวกว่า "นี่คือคนที่ไม่มั่นคง หมกมุ่นอยู่กับการล้างแค้น จมอยู่กับความคับแค้นใจ และแสวงหาอำนาจที่ไร้การควบคุม"
ทั้งนี้ ผู้สนับสนุนของอดีตปธน.ทรัมป์หลายพันคนบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาพร้อมตะโกนว่า "แขวนคอไมค์ เพนซ์" รองประธานาธิบดี ทำให้บรรดาสมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติต้องวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด หลังจากที่ทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์ ณ สวนเอลลิปส์ (Ellipse) ในขณะดำรงตำแหน่งปธน. โดยบอกกับฝูงชนว่า "ให้สู้สุดใจ" เพื่อขัดขวางไม่ให้เพนซ์และรัฐสภารับรองความพ่ายแพ้ของเขา
เหตุการณ์จลาจลดังกล่าวส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิต 4 ราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย โดยทรัมป์กล่าวว่าหากได้รับการเลือกตั้งอีกครั้ง เขาจะอภัยโทษให้กับผู้ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ดังกล่าวมากกว่า 1,500 คน