สื่อหลายสำนักของสหรัฐฯ รายงานผลการนับคะแนนเบื้องต้นในรัฐที่ปิดคูหาเลือกตั้งแล้ว ปรากฏว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน ประเดิมคว้าชัยไปก่อนใน 3 รัฐ ได้แก่ รัฐเคนทักกี อินดีแอนา และเวสต์เวอร์จิเนีย ขณะที่คามาลา แฮร์ริส แคนดิเดตจากพรรคเดโมแครต ได้รับชัยชนะในรัฐเวอร์มอนต์
ทั้งนี้ รัฐเคนทักกีมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง (electoral vote) 8 คะแนน อินเดียนามี 11 คะแนน เวสต์เวอร์จิเนียมี 4 คะแนน ส่วนเวอร์มอนต์มีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 3 คะแนน เท่ากับว่า ขณะนี้ทรัมป์ได้คะแนนไปแล้ว 23 คะแนน และแฮร์ริสตามมาที่ 3 คะแนน
อย่างไรก็ดี บรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างประสานเสียงว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีในครั้งนี้จะถูกตัดสินจากคะแนนเสียงของผู้ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ และคะแนนเสียงจากรัฐสมรภูมิ ที่เรียกว่า Swing States หรือ Battleground States ซึ่งเป็นรัฐที่ไม่ใช่ฐานเสียงของทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน
ทั้งนี้ 7 รัฐที่อยู่ในกลุ่ม Swing States ได้แก่ แอริโซนา จอร์เจีย มิชิแกน เนวาดา นอร์ทแคโรไลนา เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน โดยทั้ง 7 รัฐดังกล่าวมีคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง รวมกันมากถึง 93 เสียง
โดยจอร์เจีย ซึ่งมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งมากถึง 16 เสียง ถือเป็นรัฐสมรภูมิแรกที่จะปิดคูหาและเริ่มนับคะแนนเลือกตั้งในเวลา 19.00 น. ของวันที่ 5 พ.ย. ตามเวลาสหรัฐฯ หรือตรงกับช่วงเช้าของไทยในวันนี้ (6 พ.ย.) โดยก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยคว้าชัยชนะในรัฐจอร์เจียในปี 2559 ก่อนที่จะพ่ายแพ้ต่อนายโจ ไบเดนในปี 2563