สำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ (Fox News) รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว โดยเอาชนะคามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการคัมแบ็คทางการเมืองครั้งยิ่งใหญ่ หลังจากที่เขาพ้นจากตำแหน่งปธน.ไปเมื่อ 4 ปีก่อน
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวอื่น ๆ ยังไม่ได้ประกาศผลผู้ชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ที่เมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ทรัมป์มีกำหนดกล่าวปราศรัยต่อกลุ่มผู้สนับสนุนที่ศูนย์ประชุม และเมื่อฟ็อกซ์นิวส์ประกาศให้เขาเป็นผู้ชนะ เหล่าผู้สนับสนุนต่างส่งเสียงโห่ร้องและตะโกนก้องว่า "USA! USA! USA!"
ข้อมูลจาก Edison Research รายงานว่า ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งในรัฐสมรภูมิ (Swing state) แล้ว 2 รัฐ คือ นอร์ทแคโรไลนาและจอร์เจีย และยังมีคะแนนนำอยู่ในอีกหลายรัฐสมรภูมิ
อดีตปธน.ทรัมป์มีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นอย่างท่วมท้นทั่วประเทศ โดยได้คะแนนดีกว่าการเลือกตั้งปี 2563 ในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นในชนบทหรือในเมืองใหญ่
ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนหน้าคูหาเลือกตั้งหรือเอ็กซิตโพล (Exit Poll) จาก Edison ชี้ว่า ทรัมป์ได้รับคะแนนเสียงเพิ่มขึ้นจากกลุ่มผู้ลงคะแนนชาวฮิสแปนิก ซึ่งแต่เดิมมักจะเลือกพรรคเดโมแครต รวมถึงได้คะแนนเพิ่มจากครัวเรือนรายได้น้อยที่กำลังเผชิญกับปัญหาค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งที่แล้วในปี 2563
ทรัมป์ได้รับคะแนนเสียงจากผู้ลงคะแนนชาวฮิสแปนิกทั่วประเทศ 45% แม้จะน้อยกว่าแฮร์ริสที่ได้ 53% แต่ก็เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ถึง 13%
เอ็กซิตโพลระบุว่า 31% ของผู้ลงคะแนนให้ความสำคัญกับเรื่องเศรษฐกิจมากที่สุด โดยกลุ่มนี้เลือกทรัมป์มากถึง 79% ส่วนแฮร์ริสได้เพียง 20% นอกจากนี้ 45% ของผู้ลงคะแนนทั่วประเทศบอกว่าฐานะการเงินของครอบครัวแย่ลงเมื่อเทียบกับ 4 ปีก่อน ซึ่งคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เลือกทรัมป์ถึง 80% ขณะที่เลือกแฮร์ริสเพียง 17%