แม้การนับคะแนนยังไม่แล้วเสร็จและผลการเลือกตั้งยังไม่ถูกประกาศอย่างเป็นทางการ แต่สื่อหลายสำนักต่างรายงานไปในทิศทางเดียวกันว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน มีแนวโน้มที่จะสร้างประวัติศาสตร์เป็นคนแรกในรอบ 132 ปีที่จะได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 แบบไม่ติดต่อกัน หลังจากผลการนับคะแนนเบื้องต้นบ่งชี้ว่า ทรัมป์คว้าชัยชนะในรัฐสมรภูมิสำคัญและทำคะแนนคณะผู้เลือกตั้งเข้าใกล้ 270 คะแนน ทิ้งห่างรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตแบบเหนือความคาดหมาย
*ชีวิตช่วงแรก
สำหรับประวัติของทรัมป์นั้น เขาเกิดเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2489 ในเขตควีนส์โบโร นครนิวยอร์ก เป็นลูกคนที่ 4 ของเฟรด ทรัมป์ และแมรี แอนน์ โดยบิดาของเขาเป็นเจ้าของบริษัทพัฒนาที่ดิน เอลิซาเบธ ทรัมป์ แอนด์ ซัน (Elizabeth Trump and Son) ซึ่งปัจจุบันคือกลุ่มบริษัททรัมป์ ออร์แกไนเซชัน (Trump Organization)
ในวัยเด็ก ทรัมป์เข้ารับการศึกษาชั้นประถมที่โรงเรียนเอกชนคิว-ฟอเรสต์ในย่านจาเมกา เอสเตตส์ ซึ่งเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยของคนมีฐานะในควีนส์โบโร กระทั่งเมื่ออายุ 13 ปี ทรัมป์ถูกส่งไปโรงเรียนทหาร นิวยอร์ก มิลิทารี อคาเดมี (New York Military Academy) เนื่องจากเขาเริ่มประพฤติตัวไม่เหมาะสม ต่อมาทรัมป์ได้เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยฟอร์ดแฮมเป็นเวลา 2 ปี ก่อนจะไปเข้าเรียนที่โรงเรียนธุรกิจวาร์ตันที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย โดยหลังจบการศึกษาแล้ว ทรัมป์เริ่มทำงานที่บริษัท เอลิซาเบธ ทรัมป์ แอนด์ ซัน ของบิดา
*จากแวดวงธุรกิจ
ทรัมป์เริ่มต้นทำโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ในเมืองแมนฮัตตัน ซึ่งผลงานชิ้นแรกของเขาคือการแปลงสภาพโรงแรมเก่า คอมโมดอร์ โฮเทล ให้กลายเป็นโรงแรม ไฮแอท แกรนด์ เซ็นทรัล นิวยอร์ก (Hyatt Grand Central New York) ที่มีความทันสมัย และสร้างทรัมป์ ทาวเวอร์ (Trump Tower) อาคารที่พักอาศัยสูง 68 ชั้น และอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ อีกมากมาย รวมทั้งไปสร้างโรงแรมในอินเดีย ตุรกี และฟิลิปปินส์
ต่อมาทรัมป์ยังขยับขยายธุรกิจสู่อุตสาหกรรมการบิน และธุรกิจกาสิโนในแอตแลนติกซิตี นอกจากนี้ ทรัมป์ได้สร้างอาณาจักรธุรกิจบันเทิงขึ้น โดยนับตั้งแต่ปี 2539-2558 เขาเป็นเจ้าของการจัดงานประกวดนางงามเวทีต่าง ๆ ทั้ง มิสยูนิเวิร์ส มิสยูเอสเอ และมิสทีนยูเอสเอ
ทรัมป์ยังเปิดตัวรายการเรียลิตี้ "ดิ แอพเพรนทิซ" (The Apprentice) ทางช่องเอ็นบีซี ซึ่งเป็นรายการที่เปิดโอกาสให้หนุ่มสาวไฟแรงในวัยทำงาน มาช่วงชิงฟาดฟันความเป็นสุดยอดคนทำงาน ซึ่งผู้ชนะจะได้ตำแหน่งงานบริหารในทรัมป์ ออร์แกไนเซชัน โดยทรัมป์ลงทุนเป็นพิธีกรเอง ซึ่งรายการนี้จัดต่อเนื่องถึง 14 ซีซัน
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเป็นนักเขียนหนังสือมือทองระดับเบสต์เซลเลอร์หลายเล่ม อาทิ Thinking Big Kickass หรือ คิดใหญ่แบบโดนัลด์ทรัมป์, Think Like a Champion หรือ คิดอย่างผู้ชนะ คิดอย่างทรัมป์ และ Trump 101 The Way of Success หรือ ทรัมป์ 101 หนทางสู่ความสำเร็จ
*สู่สังเวียนการเมือง
ทรัมป์เริ่มหันมาสนใจการเมือง และลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2559 โดยสามารถเอาชนะฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต จากนั้นทรัมป์ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ในปี 2563 แต่พ่ายแพ้ให้กับโจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต โดยการเลือกตั้งครั้งนั้นสร้างความโกลาหลอย่างมาก เนื่องจากทรัมป์ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ และนำไปสู่เหตุการณ์ม็อบบุกรัฐสภาอันอื้อฉาว
กระทั่งในปี 2567 ทรัมป์หวนคืนสู่การลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง และมีวี่แววที่จะประสบความสำเร็จกับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47
ล่าสุดทรัมป์ได้ขึ้นเวทีประกาศชัยชนะ โดยกล่าวว่า "ผมขอขอบคุณประชาชนชาวอเมริกันสำหรับเกียรติอันยิ่งใหญ่ที่ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 และประธานาธิบดีคนที่ 45 ของท่าน" ทรัมป์กล่าวต่อผู้สนับสนุนที่ศูนย์ประชุมในเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา โดยมีครอบครัวและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทีมหาเสียงของเขายืนเคียงข้าง
"เราจะช่วยเยียวยาประเทศของเรา ... เราจะแก้ไขทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับประเทศของเรา" ทรัมป์กล่าว และเสริมว่า "เราสร้างประวัติศาสตร์ในค่ำคืนนี้เพื่อเหตุผลบางอย่าง ... นี่จะเป็นยุคทองของอเมริกาอย่างแท้จริง"