นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันนี้ โดยสามารถคว่ำนางคามาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต
การคว้าชัยชนะอย่างรวดเร็วของนายทรัมป์ในเวลาไม่นานหลังการปิดหีบเลือกตั้งในสหรัฐ ถือเป็นการสวนกระแสคาดการณ์ของโพลหลายสำนักที่ว่า การแข่งขันระหว่างนายทรัมป์และนางแฮร์ริสจะเป็นไปอย่างสูสี และการประกาศผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอาจยืดเยื้อและใช้เวลาหลายวันเหมือนกับการเลือกตั้งในปี 2563 ซึ่งนายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตสามารถคว้าชัยชนะเหนือนายทรัมป์
สำนักข่าว CNN รายงานว่า นายทรัมป์ได้กลายเป็นว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐแล้ว โดยล่าสุด CNN คาดว่า นายทรัมป์ได้คะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งมากถึง 276 เสียง เกินกว่าระดับ 270 เสียงสำหรับการเป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ส่วนนางคามาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ได้เพียง 223 เสียง
นอกจากนี้ พรรครีพับลิกันยังมีแนวโน้มกวาดชัยชนะทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ โดยขณะนี้ CNN รายงานว่า พรรครีพับลิกันสามารถครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาแล้ว โดยมีอยู่ 52 เสียง เกินกว่าระดับ 50 เสียงที่จำเป็นในการครองเสียงข้างมาก ขณะที่พรรคเดโมแครตได้เพียง 42 เสียง ส่วนในสภาผู้แทนราษฎรนั้น ขณะนี้พรรครีพับลิกันได้รับ 204 เสียง ใกล้ระดับ 218 เสียงสำหรับการครองเสียงข้างมาก ขณะที่พรรคเดโมแครตได้เพียง 182 เสียง
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าชัยชนะของนายทรัมป์มาจากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ :-
*การสนับสนุนของ "อีลอน มัสก์"
นายอีลอน มัสก์ ถือเป็นกำลังสำคัญในการรณรงค์หาเสียงให้กับทีมงานของนายทรัมป์ โดยได้ประกาศให้เงินทุนมากกว่า 119 ล้านดอลลาร์เข้าสู่กองทุน America PAC ของนายทรัมป์ พร้อมกับการเสนอแจกเช็ค 1 ล้านดอลลาร์ให้กับผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งใน 7 รัฐสมรภูมิ ได้แก่ แอริโซนา จอร์เจีย มิชิแกน เนวาดา นอร์ทแคโรไลนา เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน ที่ลงชื่อในคำร้องสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิในการครอบครองอาวุธปืน
นอกจากนี้ นายมัสก์ ซึ่งเป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม X ยังได้ปลดล็อกอนุญาตให้กลุ่มขวาจัดสามารถกลับมาเปิดบัญชีการใช้งานหลังจากถูกแบนก่อนหน้านี้ ส่งผลให้กลุ่มดังกล่าวกลับมามีอิทธิพลในสื่อสังคมออนไลน์ และสร้างภาพพจน์ที่ดีต่อนายทรัมป์ ขณะที่เผยแพร่ข้อความโจมตีนางแฮร์ริส
*เหตุการณ์ลอบสังหาร "ทรัมป์"
การที่นายทรัมป์รอดชีวิตจากการถูกลอบสังหารถึง 2 ครั้งก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ได้สร้างขวัญและกำลังใจต่อกลุ่มผู้สนับสนุนเขา รวมทั้งเรียกคะแนนความเห็นใจจากผู้ที่มองว่านายทรัมป์ตกเป็นเหยื่อจากการกระทำของรัฐที่มีเป้าหมายกำจัดเขา
*กลยุทธ์แนวทางหาเสียงที่แหวกแนวและติดดิน
ทีมงานรณรงค์หาเสียงของนายทรัมป์รู้จักการพลิกวิกฤตเป็นโอกาส โดยให้นายทรัมป์ใส่เสื้อกั๊กของคนขับรถขยะ และเดินไปยังรถขนขยะ ซึ่งมีการติดป้ายข้อความว่า "Make America Great Again!" โดยก้าวขึ้นไปนั่งเคียงข้างคนขับรถขนขยะ ก่อนเดินทางไปขึ้นเวทีหาเสียงในรัฐวิสคอนซิน ซึ่งเป็น 1 ใน 7 รัฐสมรภูมิสำคัญ เพื่อหวังลดกระแสความไม่พอใจของกลุ่มชาวอเมริกันเชื้อสายลาติน หลังจากที่นายโทนี ฮินช์คลิฟฟ์ นักเล่าเรื่องตลก ได้กล่าวในเวทีหาเสียงของนายทรัมป์ โดยเรียกเปอร์โตริโกว่าเป็น "เกาะขยะลอยน้ำ"
นอกจากนี้ ทีมงานหาเสียงยังสร้างภาพนายทรัมป์เป็นผู้ที่ใกล้ชิดชนชั้นกลางด้วยการให้นายทรัมป์เข้าไปเสิร์ฟอาหารในร้านแมคโดนัลด์ แม้เขาจะมีฐานะร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีของสหรัฐ
*ความอ่อนแอของ "คามาลา แฮร์ริส"
นางแฮร์ริสได้กลายเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ถอนตัวจากการแข่งขันก่อนวันเลือกตั้งเพียงไม่กี่เดือน แม้ว่านางแฮร์ริสได้รับเสียงสนับสนุนจำนวนมากในระยะแรก แต่กระแสความนิยมก็ได้ลดน้อยลง หลังจากที่มีการมองว่านางแฮร์ริสไม่สามารถสร้างความชัดเจนในการตอบคำถามต่อสื่อมวลชนในหลายประเด็น ซึ่งรวมทั้งประเด็นผู้อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย